หน้าแรกแกลเลอรี่

ผมโหดโทษที! 'ไทย' ถล่ม 'ติมอร์ฯ' 14-0 ประเดิมชัยฟุตซอลอาเซียน 2018

ไทยรัฐออนไลน์

5 พ.ย. 2561 18:21 น.

ฟุตซอลทีมชาติไทย (แชมป์เก่า) ไล่โขยกติมอร์-เลสเต 14-0 ประเดิมสนามฟุตซอลอาเซียน 2018 ที่อินโดนีเซีย มี 4 แฮตทริก โดยดาวรุ่งวัย 21 “บาส” สราวุท ผลาพฤกษ์ ซัดแฮตทริกแรกในการเล่นอาเซียนคัพ ตามด้วย “อองรี” พรมงคล ศรีทรัพย์แสง, โมฮัมเหม็ด อุสมานมูซา, กัปตันต็อบ เจษฎา ชูเดช เก็บ 3 แต้ม โดยนัดต่อไปเจอสมันน้อยบรูไนต่อวันที่ 6 พ.ย.นี้ เวลา 16.30 น. สนามกอร์ยูเอ็นวาย เมืองยอกยาการ์ตา...

วันที่ 5 พ.ย.61 การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 ที่ สนาม กอร์ ยูเอ็นวาย เมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นัดแรกของสายบี ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติติมอร์-เลสเต โดยเกมนี้ทีมชาติไทยลงสนามในฐานะแชมป์เก่า และเจ้าของแชมป์ 13 สมัย ภายใต้การคุมทีมของ โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส หรือ “ปูลปิส” เฮดโค้ชชาวสเปน ซึ่งสถิติการพบกันของทั้งสองทีม 4 ครั้งก่อนหน้านี้ เป็นทางทีมชาติไทยที่เอาชนะได้ 4 นัดรวด

ขณะที่ "จ่าต็อบ" เจษฎา ชูเดช เจ้าของสถิติแชมป์รายการนี้มากที่สุด 8 สมัย แต่เป็นการสวมปลอกแขนกัปตันทีมครั้งแรกของเจ้าตัวในรายการนี้

เริ่มเกม นาทีที่ 8 ทีมชาติไทยก็มาได้ประตูขึ้นนำสำเร็จจากจังหวะที่ สราวุท ผลาพฤกษ์ จับบอลด้วยซ้ายบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะยิงด้วยขวาเต็มข้อ ทีมชาติไทยขึ้นนำทีมชาติติมอร์ฯ 1-0

จากนั้น นาทีที่ 10 ทีมชาติไทยก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 สุทธิพร กลัดเจริญ ซัดด้วยซ้ายจังหวะเดียว บอลพุ่งเบียดเสาแรกเข้าไป

นาทีที่ 15 ทีมชาติไทยได้ประตูขยับเป็น 3-0 จากจังหวะที่ เจษฎา ชูเดช ใช้ความสามารถเฉพาะตัว พลิกบอลหนีตัวประกบบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบคานเข้าไป

นาทีที่ 18 ทีมชาติไทยขึ้นนำเป็น 4-0 จากจังหวะที่ อำพล ศรีระแก้ว เปิดแรงไปเสาสองให้ สราวุท ผลาพฤกษ์ โหม่งเข้าไปเฉย

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ทีมชาติไทยขึ้นนำเป็น 5-0 สราวุท ผลาพฤกษ์ ล้มตัววอลเลย์เข้าประตูไป และเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ ก่อนที่จะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

ครึ่งหลังเริ่มมา นาทีที่ 25 ทีมชาติไทยมาได้ประตูขึ้นนำเป็น 6-0 จากจังหวะที่ รณชัย จูงวงษ์สุข ปั่นด้วยขวาไปติดเซฟผู้รักษาประตูติมอร์ฯ แต่บอลมาเข้าทาง มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ที่ซ้ำดาบสองเข้าไป

นาทีที่ 26 ทีมชาติไทยได้ประตูหนีออกไปเป็น 7-0 จากจังหวะที่ วรุฒ หวังสะมาแอล พาบอลขึ้นไปทางฝั่งขวาก่อนจ่ายตัดเข้ากลางไปให้ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา จับหนึ่งจังหวะแล้วยิงด้วยขวาบอลพุ่งเสียบหน้าต่างเสาสองเข้าไป

นาทีที่ 28 ทีมชาติไทยได้ประตูขึ้นนำเป็น 8-0 จากจังหวะที่ ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง เปิดเตะมุมทางฝั่งขวาข้ามมาให้ เจษฎา ชูเดช ที่ยืนอยู่ริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่เจ้าตัวจะวอลเลย์ด้วยซ้านข้างถนัด บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 29 ทีมชาติไทยได้ประตูหนีเป็น 9-0 จากจังหวะเตะมุม อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ เปิดไปให้ พรมงคล ศรีทรัพย์แสง ที่ยืนอยู่บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ วอลเลย์ด้วยขวาบอลพุ่งเบียดเสาเข้าไป

นาทีที่ 30 ทีมชาติไทยได้ประตูเพิ่มเป็น 10-0 จากการเล่นฟรีคิกลูกสูตร ก่อนที่จะเป็น พรมงคล ศรีทรัพย์แสง คนเดิมที่ยิงเข้าไป

นาทีที่ 36 ทีมชาติไทยมาได้จุดโทษจากการทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษของผู้เล่นติมอร์ฯ ก่อนที่ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา จะสังหารเข้าไปและเป็นการทำแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย ทีมชาติไทยขึ้นนำทีมชาติติมอร์ฯ 11-0

นาทีที่ 38 พรมงคล ศรีทรัพย์แสง ก็มาทำประตูเพิ่มให้กับทีมชาติไทยหนีห่างเป็น 12-0 และเป็นการทำแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย

นาทีสุดท้ายของเกม ทีมชาติไทยมาได้เพิ่มอีก 2 ประตูรวดจาก อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ และ เจษฎา ชูเดช ซึ่งเป็นการแฮตทริกคนที่ 4 ในเกมนี้อีกด้วย จบเกมทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติติมอร์-เลสเต 14-0 ประเดิมคว้า 3 คะแนนได้สำเร็จ

โดยนัดต่อไปไทยเตรียมยำบรูไนต่อ ในนัดที่สองวันที่ 6 พ.ย.2561 เวลา 16.30 น. (เวลาไทยตรงกับท้องถิ่น) ณ สนาม GOR UNY เมืองยอกยาการ์ตา ประเทศ อินโดนีเซีย ในสายบี ถ่ายทอดสดทาง www.metube.id

ทีมไทย นำจ่าฝูงสายบี มี 3 แต้มจากการชนะ ติมอร์-เลสเต เกมแรกตามเป้า โดยผู้เล่นชุดที่โดดเด่นกลายเป็นทีมชุดกรมทางหลวง อันได้แก่ สราวุท ผลาพฤกษ์, เกียรติยศ แฉล้มเขตร์, สุทธิพร กลัดเจริญ และอำพล ศรีระแก้ว ส่วนชุดสอง ชุดท่าเรือก็ทำได้ไม่เลว นำโดย กัปตันต็อบ เจษฎา ชูเดช, ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง, พรมงคล ศรีทรัพย์แสง, อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ส่วนชุดแบงค็อก บีทีเอส ชุดแรกแชมป์สโมสรอาเซียนดูจะเกร็งๆ เล่นไม่ค่อยออก

ส่วนทีมบรูไนที่ยังไม่พัฒนาไปไหน แม้จะเล่นเป็นขึ้นมากกว่าแต่ก่อน แต่ด้วยตัวผู้เล่นที่มีจำกัดจำเขี่ยก็พัฒนาไม่ได้มาก มาคราวนี้พวกเขาใช้โค้ช ยูนอส ยูซุฟ เฮดโค้ชใหญ่ วัย 53 ปี ชาวบรูไน อดีตนักเตะทีมชาติที่มาทำทีมแทนโค้ชมาเลเซียคนเก่า.