ไทยรัฐออนไลน์
"ทัพช้างศึกโต๊ะเล็ก" เตรียมลงป้องกันแชมป์อาเซียน พร้อมใส่ชุดเก่งสีน้ำเงินบู๊รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรกประเดิมเจอติมอร์ 5 พ.ย. เวลา 16.00 น. สถิติ 4 ครั้งหลังไทยข่มมิด...
วันที่ 4 พ.ย.61 ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ชุดลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 ซึ่งจะขึ้นระหว่างวันที่ 5-11 พ.ย.นี้ ที่เมืองยอร์กยากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา “ทัพช้างศึกโต๊ะเล็ก” ภายใต้การคุมทีมของ โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส หรือ “ปูลปิส” เฮดโค้ชชาวสเปน ได้เดินทางถึงเมืองยอร์กยากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการเดินทางในครั้งนี้ทีมชาติไทยใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงในการบินสู่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ก่อนที่จะต้องต่อเครื่องอีก 1 ชั่วโมง เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองยอร์กยากาตาร์ สถานที่จัดการแข่งขัน ซึ่งภายหลังเดินถึงที่พักทาง “ปูลปิส” ได้ปล่อยให้นักกีฬาได้พักผ่อนจากการเดินทาง ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะลงฝึกซ้อมมื้อแรกที่ สนาม กอร์ ยูเอ็นวาย ซึ่งเป็นสนามที่จะใช้แข่งขันจริง
ด้านการประประชุมผู้จัดการทีม ที่ โรงแรมริกต์ โฮเทล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 ซึ่งการประชุมดังกล่าวประกอบด้วย สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ ในฐานะฝ่ายจัดการแข่งขัน พร้อมด้วยตัวแทนจากทั้ง 8 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งทีมชาติไทยได้ส่ง มร.โมฮัมเหม็ด มาร์ริกา อิกบาว์ ผู้ช่วยผู้จักการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย พร้อมด้วย นายเดวิด ไชยมี อบาลเต้ และนายคมสันต์ ไทยกิ่ง 2 เจ้าหน้าที่ประจำทีมเป็นตัวแทนในการเข้าร่วม โดยในที่ประชุมได้มีการชี้แจงกฎกติกาของการแข่งขัน ซึ่งทางเอเอฟเอฟได้กำหนดให้ใช้กติการเดียวกับสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี เพื่อความเป็นมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มีการกำหนดสีชุดแข่งของแต่ละทีมที่จะใช้ลงแข่งขัน ซึ่งทีมชาติไทยจะสวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีน้ำเงิน ผู้รักษาประตูจะสวมเสื้อสีเขียวและกางเกงเขียว ทั้ง 3 นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม โดยในนัดประเดิมสนามทางทีมชาติติมอร์-เลสเต จะสวมเสื้อสีแดง-ดำ กางเกงขาว ส่วนผู้รักษาประตูจะสวนมเสื้อสีดำ กางเกงดำ
ขณะที่ความพร้อมนัดประเดิมสนามของทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติติมอร์-เลสเต ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 5 พ.ย.นี้ เวลา 16.00 น. (ตามเวลาไทย) ที่ สนาม กอร์ ยูเอ็นวาย ยอร์กยากาตาร์ โดยเกมนี้ "ทัพช้างศึกโต๊ะเล็ก" ลงแข่งขันในฐานะแชมป์ 13 สมัย (2001, 2003, 2005, 2006, 2007, 2008, 2009, 2012, 2013, 2014, 2015, 2016, 2017) ภายใต้การคุมทีมของ โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส หรือ “ปูลปิส” เฮดโค้ชชาวสเปน ที่เรียกขวัญและกำลังใจด้วยการพาทีมคว้าศึกแชมป์ไทยแลนด์ ไฟว์ 2018 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศอินโดนีเซีย โดยเกมนี้ความพร้อมของทีมถือพร้อมฟิตสมบูรณ์ทุกขุมกำลัง นำโดย "จ่าต็อบ" เจษฎา ชูเดช, รณชัย จูงวงษ์สุข รวมถึง 3 ประสานในแนวรุกอย่าง วรุฒ หวังสะมาแอล, นาวิน รัตนวงษ์สวัสดิ์ และ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา
ด้าน ทีมชาติติมอร์-เลสเต ภายใต้การคุมทัพของ บรูโน่ ตอเรส ที่การแข่งขันครั้งก่อนพาทีมต้องพบกับความพ่ายแพ้ 3 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่จะตกรอบไปในที่สุด โดยความพร้อมเกมนี้ แน่นอนว่าเฮดโค้ชชาวโปรตุเกสได้นำนักเตะดาวรุ่งติดทีมมาซะส่วนใหญ่ จะมีเพียงแค่ผู้เล่นบางรายที่เป็นผู้เก๋าของทีม อาทิ โรมิดิโก้ ดาซิลวา รวมถึงการไม่มีชื่อของ บรูโน่ โกเมส ดาวซัลโวประจำทีมในครั้งก่อน ที่ไม่มีชื่อเดินทางมาแข่งขันกับทีมในรายการ ก็คงจะส่งผลกระทบในเรื่องของเกมรุกอย่างไรก็ตามความความหายและความสดของนักเตะดาวรุ่งที่ บรูโน่ ตอเรส เลือกมานั้นก็คงจะต้องมีดีให้เห็น
สำหรับสถิติการเจอกันระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติติมอร์-เลสเต 4 ครั้งหลังสุดในรายการนี้ เป็นทางทัพ "ช้างศึกโต๊ะเล็ก" ที่เอาชนะได้ทั้งหมด ไล่ตังแต่ปี 2012 ไทยเอาชนะ 19-1, ปี 2015 ไทยเอาชนะ 16-2, ปี 2016 ไทยเอาชนะ 11-2 และปี 2017 ไทยเอาชนะ 17-2
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทยในรอบแบ่งกลุ่ม นัดเปิดสนามวันจันทร์ที่ 5 พ.ย.61 ซึ่งจะพบติมอร์-เลสเต เวลา 16.00 น. ต่อด้วย วันที่ 6 พ.ย. พบ บรูไน เวลา 18.00 น. และวันที่ 7 พ.ย. พบ เวียดนาม เวลา 16.00 น. โดยทั้ง 3 นัด จะแข่งขันกันในเวลาเดียวกับประเทศไทย ที่ สนามกอร์ ยูเอ็นวาย เมืองยอร์กยากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย.