Lemon Juice
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อนะครับว่า แค่พริบตาเดียว การแข่งขัน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ" ก็จะกลับมาโม่แข้งกันอีกครั้งแล้ว ภายใต้รูปแบบใหม่ที่องค์กรลูกหนังอาเซียน คิดค้นให้มันดูมีความน่าเร้าใจมากขึ้น
นอกจากรูปแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิม ดูเหมือนว่าจะหลายอย่างที่ "ไม่เหมือนเดิม" อีกต่อไปแล้ว ในแง่คอนเซปต์ของแต่ละชาติที่เข้าร่วม
เอาง่าย ๆ คือ ซูซูกิ คัพในครั้งนี้ คาบเกี่ยวกับการแข่งขันเอเชียน คัพ 2019 ซึ่งมีระยะห่างกันเพียงแค่ไม่ถึง 1 เดือน
ดังนั้นจึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับทีมอย่าง ไทย เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ ที่จะต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้การแข่งขันทั้ง 2 รายการในช่วงปลายปีนี้ออกมาดีที่สุด
แว่วมาว่า ในส่วนของเวียดนามอาจใช้ผู้เล่นในชุดยู-23 ที่ฟอร์มกำลังขึ้นหม้อ ภายใต้การคุมทัพของ ปาร์ก ซัง โฮ เป็นแกนหลักในการลุยอาเซียน และยังเป็นการเตรียมทีมในอนาคตระยะยาวอีกด้วย
ส่วนพี่ไทยเอง แม้ "ราเยวัช" จะการันตีแล้วว่า ไม่ดึง 4 จตุรเทพที่ค้าแข้งในต่างแดนมาร่วมทีม แต่ตัวผู้เล่นที่เหลือก็แกร่งไม่แพ้กัน
และเมื่อต้นสัปดาห์ก็ประกาศรายชื่อผู้เล่น 50 คนแรกออกมาเรียบร้อยแล้ว เพื่อขึ้นทะเบียนกับเอเอฟเอฟ ก่อนตัดให้เหลือ 23 คนสุดท้ายต่อไป
ซึ่งแม้ "โค้ชมิโล" จะพยายามกลั่นกรองตัวผู้เล่นอย่างดีแค่ไหน แต่ก็ไม่วายมีดราม่าให้เห็นอีกแล้ว หลังประกาศโผชุดแรกออกมา
เพราะเหล่าบรรดาพ่อยก-แม่ยกบางส่วน ต่างออกมาตีโพยตีพายบอกว่า ทำไมคนนั้นคนนี้เล่นดี ฟอร์มเข้าตา ทำไม่มีติดทีมฟ่ะ???
พอเข้าใจได้ว่าแฟนบอลบางส่วน อยากให้นักเตะที่ตัวเองเชียร์ติดทีมชาติ แต่ถ้ามองแบบเป็นกลาง ทีมชุดที่ ราเยวัช เลือกมา ก็ถือว่าน่าจะดีและมีความพร้อมที่สุดแล้วในนาทีนี้
และที่สำคัญต้องเข้าใจด้วยว่า กุนซือชาวเซิร์บคือผู้ที่กำหนดแผนการเล่นรวมถึงแทคติกต่าง ๆ เพราะฉะนั้นนักเตะที่เลือกมา ราเยวัช ก็น่าจะมองแล้วว่าเหมาะสมกับระบบการเล่นของทีม ตอบสนองความต้องการได้
ไม่ใช่เลือกนักเตะตามกระแสแฟนบอล แล้วเล่นไม่เข้ากับระบบเลย เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ก็ไม่รู้จะเสียเวลาไปนั่งดูฟอร์มนักเตะตามสนามทำไม
อย่าลืมนะครับว่า โค้ชอยู่กับนักเตะตลอดเวลาในช่วงของการซ้อม เพราะฉะนั้นโค้ชจะรู้และเห็นได้ทันทีว่า นักเตะคนไหนเป็นอย่างไร มีความกระตือรือร้นมากแค่ไหน แสดงศักยภาพออกมาได้มากน้อยแค่ไหน เหมาะสมกับระบบของทีมหรือไม่
ดังนั้นการเลือกตัวผู้เล่น ปล่อยให้เป็นงานของโค้ชเถอะครับ เราในฐานะก็เชียร์ให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ ไม่ใช่ว่าโค้ชไม่เลือกนักเตะที่ตัวเองชอบติดทีมชาติ และมานั่งแช่งนั่งด่า กระแนะกระแหนทีมว่าจะไปได้กี่น้ำ?
แนวคิดแบบนี้ผมว่าไม่น่ารักเลยนะครับ แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าจะยังหลงเหลืออยู่ในยุคปัจจุบัน น่าจะหมดไปตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์สูญพันธ์ุไปแล้วด้วยซ้ำ
ที่สำคัญคือ ทีมชาติไทยกำลังรอกำลังใจจากทุกคนอยู่ ทุกครั้งที่ลงสนามในฐานะตัวแทนของชาติ พวกเขาสู้สุดใจแน่นอน และหวังที่จะนำเอาชัยชนะกลับมาฝากแฟนบอลให้ได้
เพราะจะเป็นตายร้ายดียังไง ขอให้เป็นทีมชาติไทยยังไงก็ต้องเชียร์ครับ...
LEMON JUICE