'จุตินันท์' นำทัพนักกีฬาพาราไทย เข้ารับพรจากสมเด็จพระสังฆราช

"จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี" นำทัพนักกีฬาพาราไทยและสตาฟฟ์โค้ช ชุดเอเชียนพาราเกมส์ เข้าเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระสังฆราช เพื่อรับประทานพร ก่อนไปอินโดนีเซีย...

วันที่ 25 ก.ย. 61 ความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาพาราไทย ชุดเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-13 ตุลาคม ล่าสุด นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้นำคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ เข้าเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จประทานพระสัมโมทนียกถา และประพรมพระพุทธมนต์ ที่พระวิหารวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 

ทั้งนี้ สมเด็จพระสังฆราช ได้ประทานพรให้ทัพนักกีฬาพาราไทย และเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางไปแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ให้นักกีฬาทุกคนที่กว่าจะได้เป็นทีมชาติ กว่าจะได้แข่งขัน ย่อมผ่านการฝึกฝนด้วยความอุตสาหะ บุคคลผู้มีจิตใจเข้มแข็ง แม้ไม่มีร่างกายเหมือนคนปกติ ย่อมไม่เป็นอุปสรรค ยังมีความสามารถฝึกฝนตนเองจนเป็นนักกีฬาระดับชาติมาได้ เป็นที่น่ายินดี น่าอนุโมทนาสาธุการ เห็นว่าท่านผู้มีความเข้มแข็ง เป็นผู้ที่มีคุณธรรมที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ ด้วยความเป็นผู้ที่มี ขันติ ความอดทน วิริยะ ความเพียร ความพยายาม เขาทำได้เราทำได้เท่าที่จะทำได้ ใช่ว่าคนปกติจะทำได้อย่างนี้ขอให้มั่นใจ จริงใจสู้ ขอให้มีธรรมะของพระพุทธเจ้า ในโอกาสที่จะเผยแผ่เกียรติภูมิของประเทศชาติในด้านกีฬา ขอให้ข้อคิดคติประจำใจ ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ยินดีในความไม่ประมาท ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท มีสติสัมปชัญญะ ความรู้ตัว มีสติปัญญา และจงนำผลสำเร็จกลับมาให้เป็นที่น่าเชิดชู และเป็นที่รู้โดยทั่วกัน ขอให้คิดว่าการไปแข่งครั้งนี้ เป็นการไปสานความสามัคคีกับเพื่อนนักกีฬาทั่วเอเชีย เอาทั้งด้านความเป็นมิตร การสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ ให้ประเทศอื่นรู้ว่าเราไม่ด้อย เรามีความสามารถ และประสบความสำเร็จ ให้ตนเองมีความภูมิใจในอุดมการณ์ที่ตั้งใจไว้

ด้าน “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ กล่าวว่า การเข้าเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระสังฆราชในครั้งนี้ สร้างความปลาบปลื้มและสร้างขวัญกำลังใจที่สูงให้กับคณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติทุกคนเป็นอย่างยิ่ง และขอให้ทุกคนมีจิตใจที่แน่วแน่ สร้างความสำเร็จมาให้กับประเทศ ซึ่งทำให้ตนเชื่อว่าพรจากพระองค์เป็นพรที่ประเสริฐมาก ซึ่งจะทำให้นักกีฬาทุกคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่เพื่อประเทศอย่างแน่นอน 

“ส่วนเรื่องปัญหาอุปสรรคของนักกีฬาก่อนออกเดินทาง ที่ผ่านมาอาจจะมีบ้าง แต่ทุกสมาคมฯ ทุกชมรม สามารถแก้ปัญหากันได้ เพราะเป็นแค่ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น และที่สำคัญนักกีฬายังเดินทางไปแข่งกันอยู่เลย ฉะนั้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราทำผลงานเพื่อมุ่งเป้าไปที่พาราลิมปิก 2020 อยู่ ทำให้เราค่อนข้างมีความพร้อม และที่สำคัญทางภาครัฐได้ให้งบประมาณในการเก็บตัวเพิ่มมากขึ้น ค่อนข้างมีความพร้อมเต็มที่ สำหรับเรื่องกังวัลเกี่ยวกับปัญหาเจ้าภาพนั้น ตนไม่ได้กังวัลอะไรมากนัก เพราะเจ้าภาพต้องคำนึงภาพรวมในการจัดการแข่งขันเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว เราคงไม่ต้องกังวลมากนัก และยืนยันว่าเราพร้อมแล้วที่ทำศึกในครั้งนี้” บิ๊กนิดหน่อย กล่าว  

สำหรับคณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย และเจ้าหน้าที่ จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 มีจำนวนทั้งสิน 372 คน แบ่งเป็น นักกีฬา 237 คน, ผู้ฝึกสอน-โค้ช รวมเจ้าหน้าที่ 135 คน ส่งแข่ง 14 ชนิดกีฬา คือ ยิงธนู, แบดมินตัน, บอคเซีย, โกลบอล, ยูโด, กรีฑา, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, ยิงปืน, เทเบิลเทนนิส, โบว์ลิ่ง, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์ฟันดาบ, วีลแชร์เทนนิส

ทั้งนี้ ผลงานเมื่อครั้งที่ผ่านมา ทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย ได้อันดับ 6 ด้วยผลงาน 21 เหรียญทอง 39 เหรียญเงิน และ 47 เหรียญทองแดง