หน้าแรกแกลเลอรี่

รอดไม่รอด! ช้างศึก อช.เกมส์ กับเส้นทางที่หินสุดในประวัติศาสตร์

ไทยรัฐออนไลน์

4 ส.ค. 2561 08:00 น.

ยอมรับว่า เห็นผลงานทัพช้างศึกยู 23 ในรายการพิเศษ อัลไพน์คัพ ที่ประเทศเมียนมา แล้วมีความรู้สึกหวั่นใจเล็กๆ ว่า กับทัวร์นาเมนต์เอเชี่ยนเกมส์ ที่กำลังจะมาถึง...

แน่นอนว่า นักเตะที่ไปอาจไม่ฟูลทีม และไม่มีใครอยากพ่ายแพ้ แต่ก็เชื่อว่าทั้งทีมโค้ชและนักเตะคงจะได้เห็นความผิดพลาดไปปรับจูนก่อนเจอของจริง แล้วไปชนะบนสังเวียนจริง ก็ไม่สายเกินไป

แต่ภารกิจในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ของทัพช้างศึก ต้องยอมรับว่ายากกว่าทุกๆ ครั้ง และอาจเป็นเส้นทางที่หินที่สุดในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์เปลี่ยนกฎมาใช้ผู้เล่นชุดยู 23 พร้อมผู้เล่นอายุเกิน 3 คนเลยก็ว่าได้ นี่คือสิ่งที่กังวลใจยิ่งกว่า เพราะคู่แข่งครั้งนี้ของทีมไทย ล้วนแต่เป็นทีมระดับท็อป และไม่มีทีมเล็กๆให้ตบเด็กมากนัก

ย้อนให้ดูคู่แข่งในของไทย ตั้งแต่ปี 2006

2006 - รอบแรก ปาเลสไตน์, คีร์กิซสถาน, คูเวต ก่อนแพ้กาตาร์เจ้าภาพตกรอบ 8 ทีม

2010 - รอบแรก ปากีสถาน, โอมาน, มัลดีฟส์ // รอบ 16 ทีม - เติร์กเมนิสถาน ก่อนแพ้ญี่ปุ่น รอบ 8 ทีมสุดท้าย

2014 - รอบแรก มัลดีฟส์, ติมอร์เลสเต, อินโดนีเซีย// รอบ 16 ทีม - จีน//รอบ 8 ทีม - จอร์แดน ก่อนแพ้ เกาหลีใต้ และอิรัก ได้ที่ 4

แต่ในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ ไทยเราดวงกุดตั้งแต่จับสลากไปเจอ อุซเบกิสถาน แชมป์เอเชียในรุ่นยู 23 กับกาตาร์ ดีกรีอันดับ 3 เอเชีย ถ้าเกิดสองทีมนี้มาแบบฟูลทีมแล้วล่ะก็ คงไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่ง จะมีก็บังกลาเทศที่เป็นไฟต์บังคับว่าไทยต้องชนะ และต้องชนะให้มากที่สุด กรณีต้องวัดที่สามที่ดีที่สุดกับสายอื่น

รอบแรกว่าหนักแล้ว หากผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ หนักยิ่งกว่า หากทีมไทยไม่ได้เข้ารอบเป็นที่ 1 ในสาย เพราะเมื่ออ้างอิงจาก draw bracket ในระบบ 24 ทีม 6 สายที่ทั่วโลกเขาใช้กัน จะพบว่าหนักมากๆ

- กรณีไทยเข้ารอบเป็นที่ 2
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมไทยจะไปพบกับที่ 2 กลุ่ม F ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะเป็นเกาหลีเหนือ, ซาอุดีอาระเบีย หรืออิหร่าน ที่ไม่ว่าจะใครก็หนักทั้งหมด แต่ถ้าผ่านได้รอบ 8 ทีม อาจเจอเจ้าภาพอินโดนีเซีย

- กรณีเข้ารอบเป็นที่ 3 (ที่ดีที่สุด)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย มีความเป็นไปได้สูงที่จะพบ ที่ 1 กลุ่ม C ซึ่งโชคดีเล็กๆ เมื่อทีมเต็งในสายอย่างอิรัก ได้ถอนทีมไป ทำให้มีโอกาสที่จะเป็นจีน หรือซีเรีย หรืออาจเจอที่ 1 กลุ่ม D ที่คาดว่าจะเป็นญี่ปุ่น

- แต่หากทีมไทย เข้าเป็นแชมป์กลุ่มได้ จะรอเจออันดับ 3 ของสาย A, C หรือ D ที่ไม่หนักมาก แต่รอบ 8 ทีม เตรียมเจอแชมป์กลุ่ม F (เกาหลีเหนือ, ซาอุฯ, อิหร่าน)

ที่กล่าวไปทั้งหมด แน่นอนว่าสามนัดในรอบแรกสำคัญที่สุด ที่จะชี้ชะตาทัพช้างศึกในเอเชี่ยนเกมส์หนนี้ ยังไม่นับข่าวร้ายที่มีนักเตะคนสำคัญบาดเจ็บ และอาจจะชวดติดทีมไปอินโดนีเซีย

ถึงจุดนี้ ให้มองเป็นบททดสอบสำคัญของทีมชุดนี้ กับเส้นทางสู่ฝันที่หฤโหดสุดๆ แต่ไม่ช้าก็เร็ว ยังไงก็ต้องเจอของแข็ง อยู่ที่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น เมื่อถึงเวลาจริง ทุกอย่างต่อสู้ในสนาม 90 นาที การเตรียมทีมคือสิ่งสำคัญที่สุด

หากทีมชุดนี้พิสูจน์ได้ว่า พวกเขามีดีในสนาม เล่นอย่างชนะใจแฟนบอล ไม่ว่าจะไปถึงรอบไหน เสียงก่นด่าจากแฟนบอลทั่วประเทศคงไม่มี เพราะเชื่อว่าแฟนบอลไทยส่วนมากก็อยู่ในระดับที่ดูบอลเป็น

ไม่แน่ว่า หากทัพช้างศึกชุดนี้ฝ่าอรหันต์เข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศอีกครั้ง ความมั่นใจของน้องๆ และทีมโค้ชมาเต็มแน่ๆ ต่อยอดไปถึงเป้าหมายสำคัญของทีมชุดนี้ที่จะพัฒนาไปคว้าตั๋วโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น ก็จะไม่เป็นเพียงแค่ฝัน

สุดท้าย ไม่ว่าจะหนักจะเบา จะดี จะร้าย ก็คงต้องให้กำลังใจพวกเขาไปให้ไกลที่สุดในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่หินที่สุดในประวัติศาสตร์ เชื่อว่าโค้ชและนักเตะทุกคน ไม่มีใครถอดใจแน่ๆ และเมื่อทีมงานในสนามทุกคนไม่ถอดใจ ก็คงไม่มีกองเชียร์คนไหนถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่ง จริงไหมครับ

วิรวิชญ์ เจริญเชื้อ/ผู้สื่อข่าวกีฬาไทยรัฐทีวี