มองโลกในแง่ดี วันที่ไม่มี เจ, อุ้ม, มุ้ย ร่วมทัพช้างศึก

แทบจะเรียกได้ว่าเข้าขั้น “ดราม่า” ทุกครั้ง เมื่อมีการประกาศรายชื่อขุนพลทีมชาติไทย เพราะไม่ว่าโผจะออกมาในรูปแบบใด ก็ไม่ถูกใจพระเดชพระคุณแฟนบอลเลยสักครั้ง

เช่นเดียวกันกับครั้งล่าสุด ที่แม้รายชื่อนักเตะ “ช้างศึก” ในชุดอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีน ช่วงต้นเดือนมิถุยานนี้จะยังไม่ออกมา แต่ก็มีประเด็นให้พูดถึงกันอีกแล้ว เพราะแว่ว ๆ มาว่า 3 ทหารเสือที่ค้าแข้งบนเวทีเจลีก จะไม่ได้กลับมาเข้าแคมป์

เว้ากันแบบซื่อ ๆ ก็คือ เพราะเกมนัดอุ่นเครื่องไทย-จีน ไม่ตรงกับปฏิทินฟีฟ่า เดย์ นั่นจึงเป็นเหตุผลอันชอบทำที่ต้นสังกัดของ เจ, อุ้ม, มุ้ย จะปฏิเสธการปล่อยตัว

เมื่อมีข่าวออกมาอย่างนี้ ทำให้กระแสแฟนบอลแตกออกมาเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือ รู้สึกเสียดายที่ทั้ง 3 คนไม่ได้กลับมารับใช้ชาติ แต่อีกฝ่ายก็ยอมรับได้และไม่ต้องการให้ทั้ง 3 คน ต้องฝืนกลับมารับใช้ชาติ ถ้าต้นสังกัดไม่เปิดไฟเขียว

โดยส่วนตัวแล้ว ผมเองก็ไม่อยากฟันธงว่าทั้ง ธีรศิลป์, ธีราทร และ ชนาธิป ควรเข้าแคมป์ในครั้งนี้หรือไม่ แต่อยากให้แฟนบอลไทยมองว่า นี้อาจจะเป็นโอกาสดี ที่บรรดาดาวรุ่งหรือผู้เล่นหน้าใหม่จะได้แจ้งเกิดบ้าง

สาเหตุสำคัญที่ต้องพูดแบบนี้ก็เพราะว่า ทีมชาติไทยควรจำลองสถานการณ์ดูสักครั้ง ว่าถ้าเราขาด 3 คีย์แมนดังกล่าวไป ทีมชาติไทยจะทำอะไรได้บ้าง และจะมีแผนสำรองอย่างไร หากมันเกิดขึ้นจริงในอนาคต

ไม่ต้องมองไกลไปจนถึงตอนที่ทั้ง 3 คนเลิกเล่นหรอกนะครับ เอาใกล้ ๆ แค่ปลายปีนี้ก็พอ ทีมชาติไทยจะจัดการอย่างไร หากไร้บรรดาแกนหลักลงป้องกันแชมป์ซูซูกิ คัพ รวมถึงในเวทีที่ใหญ่กว่าอย่าง เอเชียน คัพ 2019 ที่ต้องพบกับคู่ปรับระดับเอเชีย

ดังนั้นหากไม่ลองผิดลองถูกตั้งแต่วันนี้ แล้วเกิดก่อนทัวร์นาเมนต์สำคัญ ๆ แข้งดังเหล่านี้โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานขึ้นมา จนชวดลงสนามช่วยทีม ทัพช้างศึกของเราจะไปในทิศทางไหน

นั่นคือสิ่งแฟนบอลควรมองวิกฤตในบางครั้ง ให้เป็นโอกาสที่สดใส เพื่อให้บรรดาแข้งหน้าใหม่ ได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ระดับอินเตอร์ และในอนาคตเราจะได้มีตัวเลือกที่มากขึ้นสำหรับทีมชาติ.

>>>LEMON JUICE<<<