แค่เริ่มต้นปีก็มันซะแล้ว!!

ปิดฉากลงไปแล้วเรียบร้อย สำหรับศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46  ซึ่งถึงแม้ขุนพลช้างศึกจะไม่สามารถคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันได้ แต่แฟนบอลส่วนใหญ่ยังคงดีใจ ที่ไม่พลาดการเกาะติดขอบสนามในปีนี้...

แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ก็มีอะไรหลายอย่างที่แฟนบอลไทยยังคงพอใจในฟอร์ม และผลงานของขุนพลช้างศึกอยู่ไม่น้อย แม้จะมีเวลาในเตรียมทีมเพียงแค่ไม่กี่วัน ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้น

แต่ในเกมนัดชิงฯ แข้งทีมชาติไทยก็ยังสามารถไล่บดบี้กับทีมอันดับต้น ๆ ของโลกอย่าง สโลวะเกีย ได้แบบสูสีและน่าชื่นชม ยิ่งทำให้แฟนบอลเริ่มคาดหวังที่จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กันบ้างแล้ว

ซึ่งเมื่อตรวจการบ้านดูเนื้องานในสนาม ต้องบอกว่า "ชนาคุง" ไม่ได้ทำให้แฟนบอลผิดหวังเลย เพราะผลพวงจากการไปอัพสกิลบนแดนปลาดิบ ทำให้เทคนิคและฟอร์มการเล่นดีขึ้นกว่าเดิมเกือบเท่าตัว

และอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ "นิว เจอร์ราร์ด" ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่สวมวิญญาณปวดเหล็กวิ่งพล่านทั่วสนาม ช่วยทีมเอาไว้ได้ค่อนข้างมาก แม้จะมีช็อตน็อตหลุดไปบ้างในบางจังหวะ แต่โดยรวมแล้วถือว่าฟอร์มน่ายกย่อง และน่ายกนิ้วโป้งให้หลาย ๆ นิ้วด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่น่าเป็นห่วงและยังแก้ไม่ตกสำหรับทีมชาติไทยก็คือ การจบสกอร์ในแดนหน้า เพราะในตอนนี้จะเพิ่งพาการทำประตูของ "มุ้ยซัง" ธีรศิลป์ แดงดา เพียงอย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว

เพราะอย่างที่เห็นว่า ด้วยอายุที่มากขึ้นทุกวัน ประกอบกับสภาพร่างกายที่กรำศึกไม่เคยเว้นปี ทำให้มุ้ยในตอนนี้ไม่สามารถชงเองกันเอง หรือลากเข้าไปยิงแบบสุดจี๊ดได้เหมือนเมื่อก่อน และที่สำคัญเชื่อว่า บรรดาแนวรับทั่วเอเชียต่างจับทางของ ธีรศิลป์ กันได้หมดแล้ว ส่งผลให้โอกาสที่จะลั่นไกจบสกอร์ดูยากขึ้นตามไปด้วย

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า หลังผ่านขวบปีแรกของการทำงานบนแดนสยาม ไม่มีใครสงสัยว่า ราเยวัช เข้ามาขันเกมรับของทีมชาติไทยได้ดีเพียงใด แต่เกมรุกนี่สิ เป็นคำถามข้อใหญ่เลยว่าโค้ชมิโลจะทำให้ทัพช้างศึก มีสถิติการยิงดีขึ้นกว่าเดิมได้หรือไม่ เพราะถึงแม้ให้เกมรับเล่นดีขนาดไหน แต่ถ้าแนวรุกยิงไม่ได้ โอกาสแพ้ก็มีมากกว่าครึ่ง

ดังนั้นนี้เป็นเรื่องสำคัญในลำดับต้น ๆ ที่กุนซือชาวเซิร์บต้องใช้เกมอุ่นเครื่องฟีฟ่า เดย์ ในช่วงที่เหลือ ก่อนถึงเอเชียน คัพ ทดสอบเกมรุกให้มีความหลากหลายขึ้นกว่าเดิม เพราะแฟนบอลส่วนใหญ่คงอยากเห็นทีมเล่นดีแล้วชนะบ้าง ไม่ใช่เล่นดีแต่แพ้เหมือนที่ผ่านมา

จากนี้คงต้องให้กำลังใจ มิโลวาน ราเยวัช และทีมงานทุกคน ทำงานหนักกันต่อไปเพื่อเป้าหมายที่รออยู่ข้างหน้า ทั้งการก้าวข้ามระดับอาเซียนไปสู่สิ่งใหมที่ดีกว่า รวมถึงการทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาท์เอเชียน คัพ ให้ได้เสียที.

>>LEMON JUICE<<