ไทยรัฐออนไลน์
"พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" และ "พาทิศ ศุภะพงษ์" ประชุมร่วมกับ เอคโคโน เพื่อสรุปการทำงานในปีที่ผ่านมา...
วันที่ 15 พ.ย.60 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม Come Together ภายในที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ สมาคมฯ ได้ประชุมร่วมกับ บริษัท เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส เพื่อสรุปผลการทำงานในปีที่ผ่านมา และร่วมวางแผนการทำงานในอนาคต
การประชุมดังกล่าว นำโดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย คุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ พร้อมด้วย มร.มิเกล ฟาร์เรรอนส์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของบริษัท เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส, ฆูเลียน มาริน บาซาโล หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศ
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า "วันนี้ คุณมิเกล ฟาร์เรรอนส์ ผู้บริหารของบริษัท เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส ได้เดินทางจากประเทศสเปนมาที่ประเทศไทย เพื่อดูการทำงานของทีมผู้ฝึกสอนที่ทาง เอคโคโน ส่งมาประจำการที่ประเทศไทย เพื่อดูแลทีมชาติไทยชุดต่างๆ ตั้งแต่ U16, U19 และ U21 และติดตามการทำงาน รวมทั้งประเมินการทำงานของโค้ชและทีมงานผู้ฝึกสอนทุกคน”
“ผมเลยถือโอกาสหารือคุยกันว่าหลังจากที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลของสมาคมฯ ที่ร่วมกับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ โดยมี มร.จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เดินทางมาเปิดนั้น เราต้องมีแผนการทำงาน เพราะว่านับจากนี้สมาคมฯ กับ เอคโคโน จะไม่ได้ดูแลเยาวชนทีมชาติไทยเท่านั้น เนื่องจากเขาต้องวางแผนพัฒนานักกีฬาฟุตบอลไทยตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งถือเป็นงานหลักของเขาด้วย”
“ในอดีตสมาคมฯ และ เอคโคโน ไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเราไม่มีศูนย์ฝึกฟุตบอล แต่หลังจากที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลที่ ม.กรุงเทพธนบุรี เสร็จเรียบร้อย เอคโคโน ก็จะสามารถทำงานเต็มรูปแบบ โดยมีงานหลักคือการพัฒนานักกีฬาฟุตบอลเยาวชนระดับรากหญ้า เขาจะต้องเขียนแผนให้เรา วางแผน และให้เราเป็นคนตรวจสอบแผนทั้งหมด เพื่อทำงานร่วมกันระหว่างสมาคมฯ กับ บริษัท เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส"
สำหรับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีพิธีการลงนามความร่วมมือระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กับ บ.เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส, มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และโรงพยาบาลตำรวจ ในการวางยุทธศาสตร์ร่วมกันพัฒนาเยาวชน และเปิดศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติ ตั้งเป้าผลิตนักเตะเยาวชนก้าวสู่ระดับชาติ ตามสไตล์ "Thailand's Way" สู่เป้าหมายฟุตบอลโลก 2026.