ไทยรัฐออนไลน์
พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ถูกเรียกเข้ามาแทน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ติดโทษแบนในเกมกับ ออสเตรเลีย กองกลางรายนี้เป็นใครมาจากไหน ติดตามได้จากรายงานพิเศษโดย FA THAILAND...
พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กองกลางจากพัทยา ยูไนเต็ด เพิ่งเผชิญความผิดหวังเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อเขาหลุดจากรายชื่อ 23 คนสุดท้าย ในเกมที่เปิดบ้านพ่ายให้กับ ทีมชาติอิรัก 1-2 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 9 ก่อนถูกใส่ชื่อเข้ามาติดทีมอีกครั้ง เมื่อผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกันอย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้รับ 2 ใบเหลืองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมดังกล่าว ทำให้ติดโทษแบน 1 นัด ในเกมสุดท้ายกับ ทีมชาติออสเตรเลีย
กองกลางวัย 24 ปีรายนี้ เติบโตมากับโรงเรียนเทพศิรินทร์ แม้ว่าจะมีดีเอ็นเอลูกหนังติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ หลังมีคุณพ่อ ประภาส ฉ่ำรัศมี อดีตกองกลางทีมชาติไทย เป็นแรงบันดาลใจ แต่นั่นก็เปรียบเสมือนดาบสองคมในแง่ความกดดัน เมื่อหลายต่อหลายครั้งเขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับคุณพ่อ ที่สำคัญยังถูกสบประมาทว่าเป็นเด็กเส้นอยู่ตลอด
“ผมอยู่กับฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้วครับ” พีรดนย์กล่าวต่อ "เพราะอย่างที่รู้ว่าคุณพ่อของผมเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยมาก่อน ท่านเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของผม ก็มีบ้างครับที่กดดัน โดยเฉพาะเวลาถูกนำไปเปรียบเทียบว่าผมจะทำได้เหมือนคุณพ่อไหม จะเก่งได้ครึ่งของคุณพ่อไหม หรือบางครั้งเวลาผมแข่งฟุตบอลรายการต่างๆ คำว่าเด็กเส้นก็มีเข้ามาครับ”
“คุณพ่อ รวมถึงครอบครัวก็ให้กำลังใจผมตลอดว่าอย่าไปคิดมาก ให้นำคำพูดเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันดีกว่า ท่านพูดเสมอว่าเชื่อมั่นในตัวผม เชื่อมั่นว่าผมทำได้ และส่วนตัวผมก็อยากทำได้เหมือนคุณพ่อ โดยเฉพาะการติดทีมชาติไทยสักครั้งในชีวิตครับ”
พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ทำตามคำแนะนำของคุณพ่อ เมื่อใช้ความกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ แปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน โดยหลังจากนั้นเขามีชื่อติดนักเรียนไทย 18 ปี ก่อนตอกย้ำด้วยฝีเท้าอันยอดเยี่ยมเมื่อเป็นนักเตะเพียงคนเดียวจาก โรงเรียนเทพศิรินทร์ ที่ได้โควตาเข้าศึกษาต่อที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีโอกาสเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับ จามจุรี ยูไนเต็ด ในดิวิชั่น 2
จากนั้น พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ก็พัฒนาฝีเท้าตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งก้าวข้ามจาก ดิวิชั่น 2 สู่โตโยต้า ไทยลีก ในฤดูกาล 2015 เมื่อถูก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทัพ แม้ระหว่างนั้นจะมีบ้างที่เขาถูกปล่อยตัวให้ พัทยา ยูไนเต็ด ยืมตัวไปใช้งานเฉกเช่นปัจจุบัน แต่ก็เป็นหนึ่งในขุนพลชุดคว้าดับเบิลแชมป์ของกิเลนผยองเมื่อฤดูกาล 2016
ขณะนี้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ค้าแข้งอยู่กับ พัทยา ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2017 เมื่อปัจจุบันเป็นผู้เล่นชาวไทยที่ทำประตูได้มากที่สุดในทีมด้วยผลงาน 6 ประตู จาก 23 นัด พร้อมทำไป 1 แอสซิสต์ ก่อนได้รับโอกาสติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกในยุค มิโลวาน ราเยวัช
พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ถูกเรียกมาติดทีมตั้งแต่นัดแรกที่กุนซือชาวเซอร์เบียเข้ามาคุมทัพ ในเกมอุ่นเครื่องที่บุกไปพ่าย ทีมชาติอุซเบกิสถาน 2-0 ก่อนเป็นส่วนหนึ่งของทีมต่อเนื่อง ทั้งในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 8 ที่เปิดบ้านเสมอ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) 1-1 รวมถึงยังเป็นหนึ่งในขุนพลชุดคว้าแชมป์คิงส์คัพครั้งล่าสุด และเหนือสิ่งอื่นใดวันนี้เขาเอาชนะความกดดัน รวมถึงเดินตามรอยคุณพ่อได้สำเร็จแล้ว
“การติดทีมชาติไทยคือความฝันของผมอยู่แล้วครับ ผมมีคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจมาตั้งแต่เด็กๆ โดนความกดดัน โดนคำดูถูกว่าเด็กเส้นมาเยอะครับ แต่ก็มีคุณพ่อรวมถึงครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างผม ก็รู้สึกดีใจครับที่วันนี้เรามีโอกาสรับใช้ทีมชาติไทยสักครั้งเหมือนคุณพ่อ คว้าแชมป์คิงส์คัพได้เหมือนคุณพ่อ ก็หวังว่าผมจะมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติไทยต่อ และจะพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ ครับ”
ขณะที่ล่าสุด พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ได้กล่าวถึงการที่ ช้างศึก ใส่ชื่อเข้ามาแทน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ติดโทษแบนในเกมกับออสเตรเลียไว้ได้อย่างน่าสนใจ
“ผมพร้อมเสมอสำหรับทีมชาติไทย ผมยังดีใจเหมือนเดิมที่ได้รับโอกาสที่ล้ำค่านี้อีกครั้ง เรื่องโอกาสลงสนามขึ้นอยู่ที่โค้ช แต่ไม่ว่าผมจะได้ลงเล่นหรือไม่ ผมสัญญาว่าจะพยายามทำงานให้หนักที่สุดระหว่างฝึกซ้อม ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และถ้าได้รับโอกาสผมก็จะทำให้เต็มที่ ซึ่งหวังว่าเราจะปิดฉากรอบนี้ด้วยผลการแข่งขันที่ดีครับ”
สุดท้ายแล้วกองกลางรายนี้จะทำได้ดีแค่ไหนหากได้รับโอกาสลงเล่น วันที่ 5 กันยายนนี้ มีคำตอบ.