บี บางปะกง
ไม่ยอมหยุดไขว่คว้าความสำเร็จ !!
เป็นเกมชิงชนะเลิศ ที่สมศักดิ์ศรีบอลถ้วยเอฟเอคัพ ของเมืองไทย อย่างแท้จริงครับ!
ทีมจากลีกรอง ‘ดีพี กาญจนบุรี เอฟซี’ ที่ก่อนเกมถูกมองจากเกจิทุกสำนักว่าเป็นรอง ‘ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด’ แบบสุดกู่
แต่พอลงสนามไปโม่แข้งกันจริงๆ ขุนพลมังกรไฟ กลับสวมหัวใจสู้เกินร้อยบดเกือกกับพลพรรคแข้งเทพ อย่างน่าดูชมตลอดทั้งเกม
ก่อนจะดวลจุดโทษพ่ายบียูไป 1-4 ซึ่งในเวลา 120 นาทีทั้งคู่กินกันไม่ลงเสมอกัน 1-1
โดยแข้งเมืองกาญจน์ขึ้นนำไปก่อนด้วยซ้ำ แต่มาโดนท่านเปาชี้จุดโทษ (ก้ำกึ่ง) จาก VAR จนถูกตีเสมอ
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปอีก
ทำให้ต้องกัดฟันสู้กับยอดทีมเมืองหลวงจนถึงหยดสุดท้าย
ซึ่งจบเกมนี้ ดีพี กาญจบุรี ได้แค่รองแชมป์ก็จริง
แต่กลายเป็น “พระเอก” ที่ชนะใจคนดูทั้งในสนาม และแฟนบอลที่ชมการถ่ายทอดสดอยู่หน้าจอทั่วสารทิศ
ขนาด บิ๊กขจร เจียรวนนท์ ประธานใหญ่แข้งเทพ ที่นั่งลุ้นลูกทีมอยู่บนอัฒจันทร์
ยังยอมรับว่าเป็นเกมที่เหนื่อยสำหรับลูกทีมตัวเองจริงๆ
นักเตะเมืองกาณจน์ทุกคนมาสู้ด้วยใจ ขนาดเขาเหลือผู้เล่นน้อยกว่าเรา ก็ยังสู้ได้สนุกสูสี
ซึ่งต้องขอชมเชยในความเป็นนักสู้...อย่างที่สุด
อย่างไรก็ตามการคว้าถ้วยแชมป์เอฟเอคัพมาครองได้สำเร็จของ บียู ในครั้งนี้
นับเป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
และถือเป็นการคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์รายการแรก ในยุคที่ “ทรู” ที่เข้ามาดูแลสโมสร ตั้งแต่ปี 2009 หรือเมื่อ 15 ปีก่อน
โดยประธานขจร เปิดใจว่า กว่าทศวรรษที่ผ่านมา เราเดินทางมาด้วยความอดทน
ผ่านอุปสรรคปัญหานานัปการ ทุกรูปแบบ
จากที่ผ่านมาเราเป็นได้แค่ “พระรอง” ที่ผิดหวังซ้ำซาก มาโดยตลอด
ล่วงถึงฤดูกาลนี้ทุกคนในทีมทำงานหนักจนได้พบกับความสำเร็จที่รอคอยมานานจนได้
บิ๊กขจรเผยต่อไปว่า ถ้าใครไม่ทำทีมฟุตบอลก็จะไม่รู้ว่า
แต่ละลูก แต่ละแชมป์ แต่ละแต้ม กว่าเราจะได้มามันยากเย็นเหลือเกิน
ปีนี้เป็นปีที่สำคัญของบียู การจบซีซั่นด้วยแชมป์เอฟเอ คัพ หรือก่อนหน้านี้ที่เราทำประวัติศาสตร์ได้หลายอย่าง
ทั้งถ้วยไทยแลนด์แชมเปียนคัพ ตอนเริ่มฤดูกาล
ตามด้วยการพกศักดิ์ศรีตัวแทนประเทศไทย ออกไปสู้ศึกฟุตบอลถ้วยใหญ่ของเอเชีย“เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก”
ที่เราสามารถต่อกรชนะได้ทั้งทีมเคลีกเกาหลีใต้ และออกไปเสมอทีมเจลีกญี่ปุ่น
ล้วนเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ และถือว่าเราเดินทางมาไกลมาก...ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา
โดยจะเห็นได้ว่าในทุกปี เราก็จะดีขึ้นต่อไปเรื่อยๆ และหวังว่าจะดีกว่านี้ได้อีก ถ้าทุกคนไม่ยอมหยุดการพัฒนา
ขณะเดียวกันเครดิตของความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในยุคนี้
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกิดจากฝีไม้ลายมือ การกุมบังเหียนของสุภาพบุรุษลูกหนังมาดนิ่ง พูดน้อยแต่ต่อยหนัก
อย่าง “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน
ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และผลงานอันจับต้องได้เป็นรูปธรรม
ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นโค้ชไทยคนแรกของวงการ ที่คุมทีมคว้าแชมป์ทุกถ้วยในประเทศไทยไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น ถ้วยแชมป์ไทยลีก (ปี2016)
ถ้วยแชมป์ลีกคัพ (ปี2016 , 2017)
ถ้วยแชมป์ไทยแลนด์แชมเปี้ยนส์ คัพ (2017 , 2023)
จนถึงล่าสุด กับ ถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ (ปี2024) ที่เพิ่งคว้ามาได้สดๆร้อนๆ
และเชื่อว่า “ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด” ภายใต้การนำของ “โค้ชแบน” และ “ประธานขจร”
คงยังไม่ยอมหยุดไขว่คว้าความสำเร็จของตัวเอง...ไว้เพียงเท่านี้ (แน่)
เพราะเป้าหมายต่อไป...ที่ทุกคนยังเฝ้ารออยู่ อย่างใจจดใจจ่อ
คือตำแหน่ง “แชมป์ไทยลีก” ลีกสูงสุด
ที่ต้องคว้ามาครองให้ได้...ในอีกไม่ช้าไม่นาน !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com