หน้าแรกแกลเลอรี่

เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง !!

บี บางปะกง

23 พ.ค. 2567 15:05 น.

เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง !!

นับเป็นคำ่คืนแห่งความสุขสมอารมณ์หมายของ “สาวกกิเลนผยอง” อย่างแท้จริง 

การเฆี่ยนเอาชนะคู่ปรับตลอดกาล อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 2-0 

เป็นอะไรที่สุดติ่ง กระดิ่งแมว ชนิดกระฉูดแตก หาที่เปรียบไม่ได้   

และผมเชื่อเหลือเกินว่า คงไม่ใช่แค่แฟนเมืองทองเท่านั้น ที่แฮปปี้ 

แต่คอลูกหนังทีมอื่นๆ (ยกเว้นเซราะกราวทีมเดียว) ล้วนแล้วแต่สะใจ ด้วยกันทั้งนั้น 

เพราะการร่วงตกรอบตัดเชือกถ้วยลีกคัพ ของพลพรรค “ปราสาทสายฟ้า” 

มันได้สร้างสีสันให้บอลไทยน่าดูขึ้นอีกเป็นกอง 

ไม่ใช่มีเก่งอยู่ทีมเดียว แล้วเหมาหมดมันทุกแชมป์ ตะพึดทั้งปีทั้งชาติ อย่างที่ผ่านๆมา 

ซึ่งผู้คนเขาเบื่อกันหมดแล้ว!   

ดังนั้นการที่ บุรีรัมย์ หมดสิทธิ์คั่วดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ แล้วกลับไปฉลองแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 9 เพียงถ้วยเดียว

เป็นสิ่งที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงแล้วล่ะครับ! 

บอลถ้วยทั้ง เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ ที่เหลืออยู่ ปล่อยให้ทีมอืนเขาไปลุ้นแชมป์กันมั่ง 

ที่น่าแปลกใจอย่างเดียวก็คือ หลังจบเกมนี้ ก็มีข่าวเรื่องการปลดโค้ช “จอร์จินโญ” ออกจากตำแหน่งแบบไม่มีปี่ มีขลุ่ย

โดยกุนซือแซมบ้า ไม่ได้คุมทีมมาเตะเกมนี้ และมีรายงานว่า จริงๆแล้วเจ้าตัวแยกทางกับบุรีรัมย์ได้ 3 วัน  ก่อนจะบินกลับบราซิลไปเรียบร้อย 

เอาเป็นว่าวิธีการบริหารทีมเซราะกราว ก็ยังคงแปลกๆเหมือนเดิม โค้ชจะอยู่หรือไปไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลงาน 

แต่น่าจะมีปัจจัยอย่างอื่น ที่แฟนบอลปุถุชนคนธรรมดาอย่างพวกเรามิอาจไปล่วงรู้เหตุผลของ “เฮด ออฟ เฮดโค้ช” เค้าได้ 

แต่ชั่วโมงนี้ก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรหรอกครับ มีความสุขอยู่กับชัยชนะอันหอมหวาน และผลงานที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองของตัวเอง เป็นดีที่สุด 

เพราะสิ่งที่เราต้องชื่นชมและปรบมือให้กับแข้งกิเลนดังๆ ก็คือการพลิกสถานการณ์จากหลังเท้าเป็นหน้ามือ...อย่างเหลือเชื่อ 

เลกแรก ผลงานขี้เหร่ ไม่เป็นสัปปะรด จนร่วงไปอยู่ท้ายตารางในกลุ่มหนีตกชั้น  

แต่เลกสอง มีการปรับจูนทีมกันใหม่ในบางจุด ด้วยการใช้นักเตะดาวรุ่งของสโมสร ผสมกับผู้เล่นตัวเก๋าทั้งไทยและต่างชาติจนลงตัว 

ทำให้กิเลนตัวนี้ กลับมาผยองเดชได้อีกครั้ง โกยแต้มในไทยลีกอย่างสนุกมือ 

ซึ่งถ้าไม่นับ บุรีรัมย์ ที่เป็นแชมป์แล้วละก็ เมืองทอง นี่แหละครับ คือทีมที่เก็บคะแนนได้มากที่สุด ในช่วงเลกหลัง

พร้อมกับการแจ้งเกิดของแข้งพลังหนุ่ม อย่าง “ซีโฟร์” คคนะ คำยก , “ฟร๊องซ์” ปรเมศว์ อาจวิไล , ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ 

รวมถึง “เจ้าเท่ห์” เจริญศักดิ์ วงศ์กร ที่ประสานงานกับ วิลเลี่ยน พอพพ์ อย่างรู้ใจ จนฉีกตาข่ายคู่ต่อสู้ ทีมแล้วทีมเล่า 

ขณะที่ “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาในเลกนี้ และได้ลงสนามช่วยทีมแบบเต็มๆหลายนัด 

แม้ฟอร์มโดยรวมอาจจะยังดูไม่หวือหวา แต่เจ้าตัวก็ทดแทนการจากไปของ “จารย์เตอร์” วีระเทพ ป้อมพันธ์ ที่ย้ายไปซบแข้งเทพ ได้เป็นอย่างดี 

เช่นเดียวกับ “กัปตันเคน” พิชา อุทรา ที่รับหน้าที่ห้องเครื่องในแดนกลางอย่างสมบูรณ์แบบ ขยันวิ่งพล่านไปทั่วทั้งสนามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนือ่ย 

นี่ยังไม่นับดีลการดึงตัว แบ็คจอมเก๋า อย่าง “สถาพร แดงศรี” มาอุดรอยรั่วด้านข้าง 

ซึ่งด้วยวัยกลางเลขสาม ทำให้หลายคนเป็นห่วงว่า “เฮียหนุ่ม” ยังจะไหวหรือ กับการลุยแข้งในลีกสูงสุด 

แต่ที่ไหนได้ เจ้าตัว กลับงัดฟอร์มแกร่งมาช่วยให้เกมรับของกิเลนปึ้กปั้กขึ้นอย่างผิดหูผิดตา จนล่าสุดได้รับการตอบแทนด้วยการต่อสัญญาออกไปอีก 1 ปี 

ส่วนอีกคนที่เป็นคีย์แมนสำคัญ ผู้ปิดทองหลังพระ ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ 

ก็คือ “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารผู้เป็นตำนานสโมสร ซึ่งคัมแบ็คกลับมายืนมือ 1 เฝ้าเสาอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากรอบทิศ

เนื่องจากเขาเจ็บเรื้อรังไปนานกว่า 2 ปีจนหันไปเอาดีทางโค้ชประตูแล้ว 

แต่ด้วยความมุมานะ มุ่งมั่นอดทน ในการรักษาตัวเองจนหายสนิท และกลับมาฟิตร่างกาย เพื่อช่วยสโมสรอันเป็นที่รัก 

ที่สุด เจ้าตัว ก็พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานในสนามล้วนๆ ที่เรียกความเชื่อมั่นให้กับเพื่อนร่วมทีมอุ่นใจ 

จนสามารถตะลุยบุกไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีการพะวงหลัง 

ซึ่งชั่วโมงนี้ ฉายา “เทพกวินทร์บินได้” ที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต ได้กลับคืนสู่ร่างทองของเขาอีกครั้งแล้ว 

ไม่แปลกใจเลยที่จะมีชื่อของ “กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์” อยู่ในลิสต์ของกุนซือ มาซาทาดะ อิชิอิ 

ที่จะเรียกกลับมารับใช้ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ อีกครั้ง  

เพราะมันช่างเหมาะสม...ด้วยประการทั้งปวงจริงๆ  

- บี บางปะกง - 
       joggingboy_be@yahoo.com