บี บางปะกง
เทกุซัง...คัมแบ็ค
แข้งเทพ...ฆ่าไม่ตายจริงๆครับ ชั่วโมงนี้
ล่าสุดโดน โปลิศ เทโร บุกมานำถึงถิ่น...จวนเจียนจะหมดเวลาอยู่รอมร่อ
แต่นาทีทดเจ็บ 90+3 พวกเขาก็ยังบดบี้ตีเสมอเป็น 1-1 จนได้
จากลูกโขกอันเฉียบขาด ของ วิลเลน โมต้า เจ้าเก่า เซฟ 1 แต้มเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
พร้อมทะยานเข้าป้ายเป็นแชมป์ไทยลีกครึ่งทางแรกไปเรียบร้อย
แม้จะเหลือโปรแกรมเตะนัดตกค้างอีก 2 แมตช์ ที่ต้องบุกเยือน ชลบุรี เอฟซี ในวันพฤหัสบดีที่ 28 ธ.ค.นี้
ตามด้วยการเปิดบ้านศึกซูเปอร์บิ๊กแมตช์ กับแข้งเซราะกราว บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในต้นปีหน้า เสาร์ที่ 6 ม.ค.67 ที่ทรู สเตเดี้ยม
ซึ่งถ้า 2 แมตช์นี้นักเตะ ทรู แบงค็อกฯ ยังไม่แพ้อีก พวกเขาก็จะเป็น “แชมป์ไร้พ่าย” ของไทยลีกเลกแรกไปในทันที
อันจะส่งผลดีต่อการ “รักษาโมเมนตัม” ของตัวเองต่อไปในเลกที่สอง
เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายสูงสุด คือการคว้าแชมป์บอลลีกของบ้านเรามาครองให้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร เมื่อจบฤดูกาล
เพราะซีซันนี้ต้องยอมรับว่าบิ๊กทีมคู่แข่งหัวตาราง ล้วนแต่ฟอร์มยังไม่ “นิ่ง” ด้วยกันทั้งสิ้น
อย่าง บีจี ปทุม ที่ไล่จี้ตามหลังมาอยู่ไวๆ ตอนแรกก็ดูจะน่ากลัว
แต่เอาไปเอามา หลังจากที่กระเด็นตกรอบ เอเอฟซี แชมเปียน์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แบบหมดสภาพนักศึกษา
6 นัดแพ้รวด เก็บไม่ได้เลยแม้แต่คะแนนเดียว
ฟอร์มของ “เดอะแรบบิต” ก็เริ่มหลุดโค้ง ชนะใครไม่เป็นมา 3 นัดติดแล้ว
ที่แย่ไปกว่านั้น คือแพ้จุดโทษ ชลบุรี เอฟซี จนพ้นวงโคจรลุ้นแชมป์บอลถ้วย เอฟเอคัพ
ต่อด้วยปราชัยนัดแรกในบ้าน ให้กับ นครปฐม ยูไนเต็ด 1-2 อย่างพลิกความคาดหมายสุดๆ
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี จะประกาศไขก๊อกลาเก้าอี้ล่วงหน้าไปก่อนหน้านี้
เพราะเขาเองก็คงรู้ตัวดีแล้วว่า ศักยภาพของตัวเองคงยังไม่เหมาะสมกับการคุมทีมยักษ์ใหญ่ที่มีความคาดหวังสูง อย่าง บีจี อีกต่อไป!
ดังนั้นทางออกเดียวทีดีที่สุดก็คือลุกออกไป
เพื่อเปิดทางให้สโมสรแสวงหากุนซือคนใหมที่เหมาะกว่าตัวเอง เข้ามากุมบังเหียนแทน
ซึ่ง บีจี ก็ใช้เวลาเพียงไม่นาน ในการเรียกตัวกุนซือใหม่แต่หน้าเก่า อย่าง “โค้ชเทกุ” มาโกโตะ เทกุระโมริ เข้ามาเสียบแทนในเลกหลัง
แม้ว่าก่อนหน้านี้ “เทกุซัง” จะเพิ่งล้มเหลวมากับการทำทีม ชลบุรี จนต้องรับผิดชอบผลงานด้วยการลาออก ก็ตาม
แต่ด้วยผลงานของเค้ากับ บีจี ที่เคยฝากไว้ในรอบแรก ถือได้ว่าสอบผ่านสบายๆ
ไม่ว่าจะเป็น การคว้ารองแชมป์ศึกไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 หลังจากเข้ารับตำแหน่งเฮดโค้ช บีจี ในเลกที่ 2 ของฤดูกาลดังกล่าว
และการคว้าแชมป์ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์คัพ 2022
รวมถึงผลงานในระดับอินเตอร์ที่ “โค้ชเทกุ” พาทัพ กระต่ายแก้ว ตัวนี้ เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 ได้อีกต่างหาก
เรียกว่าตอนที่เขาต้องแยกทางกับบีจีไปในครั้งนั้น เล่นเอาหลายคนงงเต้กไปตามๆกัน ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ก่อนจะถึงบางอ้อจากบทสัมภาษณ์ของ “ประธานปิ๊บ” ปวิณ ภิรมย์ภักดี
ที่ยกเหตุผลเรื่อง“ดื้อ” และ ไม่ยอมใช้งานนักเตะดาวรุ่งของสโมสร อย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ไปต่อกันไม่ได้
จนต่อมากุนซือซามูไร ไปรับงานคุมทัพฉลามชล
ทำให้เขามีโอกาสได้สัมผัสกับการสร้างผู้เล่นเยาวชนแบบเต็มๆอยู่หลายเดือน
ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ทำให้“เทกุซัง”ได้เรียนรู้ประสบการณ์อะไรหลายอย่าง...ที่ไม่เคยได้รับจาก บีจี
ซึ่งผมเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่บอสปวิณมองเห็นมาตลอด
และเมื่อได้จังหวะที บีจี จะต้องเปลี่ยนโค้ช (อีกครั้ง) เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะกลับมาใช้บริการ “โค้ชเทกุ”อีกรอบ
ด้วยเชือมั่นว่าการวนลูปให้กุนซือคนเดิม ที่เคยรู้จักสโมสรเป็นอย่างดี และมีผลงานจับต้องได้ชัดเจน
ได้กลับมามีโอกาสได้ทำทีมเพื่อลุ้นแชมป์อย่างเต็มที่ ด้วยวิถี “เจแปนเวย์”
น่าจะเป็นอะไรที่เวิร์ค และดีที่สุด กับสถานการณ์ของกระต่ายสายคลอง ณ เวลานี้
ส่วนเรื่องที่โค้ชเทกุ เคยเผยว่าตัวเองไม่ถูกฉโลกกับ “สีฟ้า” หรือ “สีน้ำเงิน” เท่าใดนัก...ก็ไม่ใช่ปัญหา
เวลาทีมแข่ง...หาเสื้อแดง หรือเสื้อสีอื่น มาให้แกใส่ซะ
ก็น่าจะแก้เคล็ดได้อยู่ !!!
บี บางปะกง
joggingboy_be@yahoo.com