ไทยรัฐออนไลน์
หนึ่งในผู้คร่ำหวอดวงการฟุตบอลขาสั้นของเมืองไทย เล่าถึงนาทีเปลี่ยนชีวิตของ ศศลักษณ์ ไหประโคน จนทำให้ชีวิตมีทุกวันนี้
วันอังคารที่ 12 เมษายน 2565 สกล เกลี้ยงประเสริฐ เฮดโค้ชของทีมฟุตบอลโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ได้ออกมาเล่าผ่านรายการออนไลน์บนแพลตฟอร์ม ยูทูบ ถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนครั้งพบเจอกับเด็กชาย ศศลักษณ์ ไหประโคน เป็นครั้งแรก
ทาง อาจารย์ สกล เผยว่าในช่วงนั้นเป็นช่วงที่เปิดรับคัดตัวนักฟุตบอลของโรงเรียนหลายๆ โรงเรียนและนักเรียนส่วนใหญ่จะแห่กันไปคัดในที่โด่งดังเป็น มหาอำนาจวงการลูกหนังขาสั้น เช่น อัสสัมชัญศรีราชา, กรุงเทพคริสเตียน เป็นต้น สุรศักดิ์มนตรี ในเวลานั้นยังไม่โด่งดังมากนั้น แต่ก็มีเด็กชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมแบกกระเป๋าใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัดมีนามว่า ศศลักษณ์ ไหประโคน
โดย อาจารย์ สกล เล่าว่า ศศลักษณ์ ไหประโคน ในเวลานั้น เป็นนักฟุตบอลที่เก่งแต่ปัญหาสำคัญที่รูปร่างเล็กเกินไปและทำให้ติดเป็นตัวสำรองของทุกโรงเรียนดังในเวลานั้น อีกทั้งการคัดเลือกนักฟุตบอลของโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีได้จบลงไปแล้วแต่ ศศลักษณ์ ได้มาขอเข้ามาหาที่โรงเรียนเพื่อขอโอกาสและพูดคุยกับอาจารย์ และในตอนแรกก็ไม่ได้รับไว้เนื่องจากมันปิดรับสมัครไปแล้วและได้ไล่ให้กลับบ้าน
ทันใดนั้นเอง อาจารย์ สกล เผยเพิ่มว่า ในขณะที่ ศศลักษณ์ กำลังจะเดินจากก็ 2 จิต 2 ใจ ว่าจะรับเข้าเรียนดีไหมก่อนที่จะตัดสินใจเรียกกลับมารายงานตัวในอีก 4 วันข้างหน้า นอกจากนี้ยังได้ไปกราบที่อกผู้อำนวยการโรงเรียนให้รับเด็กคนนี้เอาไว้ และก็คิดไม่ผิดที่ตัดสินใจรับเอาไว้
ปัจจุบัน ศศลักษณ์ ไหประโคน ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ และ ชาวบุรีรัมย์ ภาคภูมิใจเนื่องจากเขาเป็นนักเตะไทย ที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศเกาหลีใต้ ได้สำเร็จ และนอกจากนี้ ก็กลับมาพาจังหวัดบ้านเกิดคว้าแชมป์ฟุตบอล ไทยลีก สมัยที่ 7 ได้สำเร็จอีกด้วย