บี บางปะกง
กระแสข่าวดราม่าดาราสาว “แตงโม” ตกเรือเสียชีวิต ถูกกลบไปชั่วขณะ หลังปรากฏภาพข่าวที่เป็นไวรัลไปทั่วทั้งวงการกีฬา ในฟุตบอลไทยลีก 3 รอบแชมเปียนส์ลีก โซนล่าง คู่ระหว่าง ม.นอร์ทกรุงเทพ ที่เปิดบ้านถล่มเอาชนะบางกอก เอฟซี ขาดลอย 3-0
โดยในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+4 เป็นจังหวะที่ อิศเรศ น้อยใจบุญ นักเตะบางกอก เอฟซี พยายามพาบอลหนี ศุภสัณฑ์ เรืองศุภนิมิต แต่มาโดนแข้งเจ้าถิ่นแหย่ขาสกัดแบบคาบลูกคาบดอกดักไว้ก่อน
ทำให้อิศเรศฟิวส์ขาดคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ปรี่เข้าไปฟาดศอกซ้ายใส่หน้าของศุภสัณฑ์ จนล้มทั้งยืน หวิดสลบเหมือดคาสนาม จนผู้ตัดสินต้องชูใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
นี่คือภาพการจงใจทำร้ายคู่ต่อสู้ที่เลวร้าย และบัดซบมากที่สุด เท่าที่ผมเคยทำข่าวฟุตบอลไทยมาเลยทีเดียว!!
ยอมรับว่าเคยเห็นช็อตความรุนแรงลักษณะนี้มาบ้างเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในลีกฟุตบอลอเมริกาใต้ที่ค่อนข้างเถื่อนสักหน่อย
แต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นกันจะจะเข้าตากรรมการในบอลอาชีพบ้านเราอย่างนี้
ซึ่งผมไม่รู้ว่าสมองเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงแสดงพฤติกรรมที่ขาดสติออกไปแบบไม่มียั้งกันเลย
สมควรแล้วที่จะโดนสังคมประณามหยามเหยียดจนแทบหาที่ยืนไม่ได้
สมควรแล้วที่ต้นสังกัดสโมสรบางกอก เอฟซีจะต้องบอกยกเลิกสัญญาเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับนักเตะคนอื่นๆต่อไป
และสมควรแล้วที่ทางผู้บริหารทีมอาชาผยอง นอร์ทกรุงเทพ จะออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ต้องแจ้งความดำเนินคดีกับ “ขุนศอกไร้น้ำใจ” รายนี้ให้ถึงที่สุด
ข้อหาที่ทำให้นักเตะของพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องเย็บถึง 24 เข็มกันเลยทีเดียว
จะเรียกว่าเป็นการจงใจทำร้ายร่างกายที่ทุเรศทุรัง เข้าข่ายคดีอาญาอย่างชัดเจน เพราะคู่ต่อสู้คิดไม่ถึงว่าจะโดนเล่นงานทีเผลออย่างนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกเลยว่าแข้งอารมณ์ร้อนของกระทิงเหล็ก อาจเจอโทษอ่วม จำคุก 6 เดือน-10 ปี และปรับ 1 หมื่น-2 แสนบาท
ทีนี้ต้องมารอดูองค์กรแม่อย่างสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยล่ะครับ ว่าจะตัดสินลงดาบในเคสนี้กันแบบไหน อย่างไร?
โดยเมื่อพิจารณาตามกฎระเบียบที่ว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท ที่สมาคมลูกหนังระบุไว้ข้างต้นแล้ว
อิศเรศมีโอกาสโดนแบนอย่างต่ำ 4 นัด และมากสุด 7 นัด พร้อมปรับเงินนับแสนบาท
ซึ่งดูแล้วโทษแค่นี้มันจิ๊บจ๊อยเกินไปกับวีรกรรม วีรเวร ที่เจ้าตัวก่อขึ้น
เนื่องจากภาพข่าวที่ปรากฏออกมามันฉาวโฉ่ไปทั่วทั้งโลกแล้วในเวลานี้
ถึงขนาดที่สื่อดังของอังกฤษอย่าง “เดอะ ซัน” ยังต้องเอาไปตีแผ่
เพราะฝรั่งมังค่าเขาถือว่าการทำร้ายกันในสนามฟุตบอลระดับลีกอาชีพอย่างนี้ต้องถือเป็นเรื่องไม่ปกติแน่
ส่งให้ “ฟุตบอลไทย” ที่ทุกคนพยายามช่วยกันยกระดับอัปเกรดแทบเป็นแทบตาย กลายเป็นต่ำเตี้ยเรี่ยดินลงไปในทันที
ดังนั้นโทษทัณฑ์ของการลุแก่อารมณ์ของจอมสับศอกผู้นี้จึงต้องโดนหนักหนากว่าเคสใดๆทั้งสิ้นที่เคยมีมา
เพราะถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของนักเตะบ้านเราอย่างไม่มีชิ้นดี
บอกเลยว่าเคสนี้ แค่แบนและปรับเงินมากแค่ไหน ก็ไม่สาสมกับความผิดที่เจ้าตัวก่อขึ้นมาหรอก
มันต้องตะเพิดพ้นวงการให้ไปทำอาชีพอื่น
นั่นแหละ...ถึงจะเหมาะ!!!
บี บางปะกง