บี บางปะกง
ปิดฉากเลกแรกไปแล้วล่ะครับ สำหรับฟุตบอลไทยลีก ลีกสูงสุด ฤดูกาล 2021-22 ซึ่งเป็นแข้งเซราะกราว บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กลับมายืนหนึ่งในตำแหน่งจ่าฝูงได้อีกครั้ง หลังบุกไปเฉือนชนะ “กว่างโซ้งมหาภัย” ลีโอ เชียงราย ถึงถิ่น 1-0
ขณะที่พลพรรค “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พลาดท่าหล่นบัลลังก์มาเป็นที่ 2 เพราะดันไปพลิกพ่ายให้กับทีมท้ายตาราง อย่างสุพรรณบุรี เอฟซี 0-2 ทำให้มี 32 แต้มเท่ากับยอดทีมอีสานใต้ แต่ประตูได้เสียเป็นรอง 1 ลูกจึงวืดแชมป์เลกแรกไป
น่าเสียดายประเด็นการแซงเข้าวินของบุรีรัมย์ในครั้งนี้ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงสักเท่าไหร่ เพราะแฟนบอลส่วนใหญ่ต่างโฟกัสไปที่การจัดตัวผู้เล่นลงสนามในเกมบุกเยือนเชียงรายซะมากกว่า
โดยเฉพาะ “เจ้าโย่ง” พรรษา เหมวิบูลย์ ตกเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ของสังคมลูกหนังทันที หลังเจ้าตัวมีชื่อเป็น 11 คนแรกหน้าตาเฉย ทั้งที่ก่อน หน้านี้มีข่าวว่าได้รับบาดเจ็บร่างกายไม่สมบูรณ์ถึงขนาดขอถอนตัวจากทีมชาติไทยชุดซูซูกิคัพไปแล้ว
แต่ไหง...ดันลงมาวิ่งปร๋อให้กับสโมสร เล่นเอางงกันไปทั่ว สุดท้ายเจ้าตัวก็เลยโดน “ทัวร์ลง” ไปตามระเบียบ จะว่าไปจะโทษตัวนักเตะทั้งหมดก็คงไม่ถูกนักหรอก ของอย่างนี้มันต้องถามใจผู้บริหารทีมเซราะกราวดูด้วยว่าเขาคิดอะไรอยู่
ขณะเดียวกันก็ต้องย้อนกลับไปดูนโยบายของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯด้วยว่าโปรแกรมบอลลีกไทยที่กำลังเป็นไปในปัจจุบัน มันเอื้อต่อการพัฒนาวงการและทีมชาติของเราหรือไม่ อย่างไร?
เพราะปกติเดือนธันวาคมจะเป็นเดือนที่บอลภายในประเทศจบหมดแล้ว ชาติอื่นเขามีเวลาเตรียมทีมสู้ศึกรายการต่างๆตามปฏิทินเอเอฟเอฟ และเอเอฟซีกันอย่างสบายๆ
แต่นี่ไทยลีกของเราดันเพิ่งผ่านพ้นมาแค่ครึ่งทาง ก็เลยเจอปัญหาที่สโมสรไม่อยากปล่อยผู้เล่น ตัวหลักมารับใช้ชาติอย่างที่เห็น
แล้วอย่างนี้การทะลึ่งปรับโปรแกรมไปเตะกันในเวอร์ชันยุโรปจ๋า มันจะได้ประโยชน์อะไร? ผมยังหาคำตอบไม่ได้เลยจนถึงทุกวันนี้
รู้อย่างเดียวว่าบอลไทยลีกอีกครึ่งฤดูกาลที่เหลือ แฟนบอลบ้านเราควรจะเอาใจช่วยใคร? ให้สมหวังเข้าป้ายเป็นแชมเปียนส์ในบั้นปลายมากกว่ากัน
ก็พิจารณากันเอาเองจากสิ่งที่เห็นและเป็นไป ในการเรียกตัวนักเตะทีมชาติในคราวนี้เถิด...ท่านทั้งหลาย
เอ้า!!ไหนๆก็พูดถึงฟุตบอลภายในประเทศแล้ว นอกจากบอลลีก ก็ยังมีบอลถ้วยที่จะกลับมาอัดโปรแกรมเตะกันอีกทีหลังปีใหม่ทั้งศึก เอฟเอคัพ และลีกคัพ
โดยในส่วนของ บอลถ้วย “น็อกเอาต์” เอฟเอคัพ ถือเป็นรายการที่สำคัญยิ่ง เพราะจะเป็นประตูอีกบานไปสู่ถ้วยเอเชีย “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก” ดังนั้นทุกทีมจึงต่างโฟกัสกันเต็มที่
ซึ่งเวลานี้การฟาดแข้งล่วงมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายกันแล้ว โดยเหลือสโมสรที่จะลงโม่แข้งชิงความเป็นหนึ่งกันดังต่อไปนี้ ไทยลีก 1 จำนวน 12 ทีม
ได้แก่ บีจี ปทุม, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ, ลีโอ เชียงราย, ทรู แบงค็อก, สมุทรปราการ ซิตี้, เมืองทอง ยูไนเต็ด, นครราชสีมา มาสด้า, โปลิศ เทโร, สุพรรณบุรี เอฟซี, หนองบัว พิชญ, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด
ส่วนที่เหลือเป็นไทยลีก 2 ทั้งหมด 2 ทีม คือ ลำปาง เอฟซี, ลำพูน วอร์ริเออร์ส และอีก 2 ทีมจากไทยลีก 3 อุทัยธานี เอฟซี กับ สงขลา เอฟซี
สำหรับการจับสลากประกบคู่ในรอบ 16 ทีม กำหนดให้มีขึ้นใน วันที่ 14 ธันวาคมนี้ โดยสมาคมฯแจ้งว่าจะยังคงยึดรูปแบบออนไลน์ต่อไปเหมือนเดิม
แต่หลายสโมสรที่เข้ารอบมาไม่ค่อยสบายใจ อยากให้การจับสลากในรอบลึกๆแบบนี้มีผู้แทนของแต่ละทีม รวมถึงสื่อมวลชนเข้าไปร่วมเป็นสักขีพยานกันด้วย เพื่อความ Fair กับทุกทีม
ก็ฝากถึงผู้จัดของ FA ไทยแลนด์ รวมถึงสปอนเซอร์หลัก “ไทยเบฟ-เครื่องดื่มตราช้าง” ช่วยจัดให้หน่อยเถอะครับ
บรรยากาศบอลไทยยุคนี้...มันชวนไว้วางใจได้ขนาดไหน? ก็รู้ๆกันอยู่!!!
บี บางปะกง