หน้าแรกแกลเลอรี่

น้องใหม่มาแรง (จริง)

บี บางปะกง

12 เม.ย. 2564 06:00 น.

ตั๋วไทยลีก ลีกสูงสุดใบสุดท้าย จะเป็นการแย่งชิงกันระหว่าง 2 ยอดทีมลีกรอง ที่เพิ่งคัมแบ็กกลับมาจากลีกล่างเมื่อฤดูกาลที่แล้วนี้เอง

“เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด หักด่าน ชัยนาท ฮอร์นบิล สบายๆ ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศในรอบเพลย์อออฟกับ “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่เอาชนะ แพร่ ยูไนเต็ด ได้ตามโผ

สำหรับ คู่ชิงดำ เพื่อหาทีมชนะเลื่อนชั้นไปเล่นไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021-2022 อีก 1 ทีม จะเตะกัน 2 นัด เกมแรก วันเสาร์ที่ 17 เม.ย. และนัดสอง วันเสาร์ที่ 24 เม.ย. 2564 โดยเกมแรกจะเล่นที่บ้าน ขอนแก่น ยูไนเต็ด ก่อน

รวมผล 2 นัดใครคว้าชัยก็จะตาม หนองบัว พิชญ กับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ขึ้นสู่ลีกสูงสุดทันที !! 

ส่วนการต่อสู้ในไทยลีก 2 ซีซั่นหน้า ต้องบอกข้นคลั่ก มันหยดติ๋งแน่นอนครับ เพราะจะเป็นการชุมนุมของบรรดายอดทีมทั้งหลายที่อกหักจากการขึ้นชั้นปีนี้ อาทิ เชียงใหม่ เอฟซี, แพร่, ชัยนาท ฯลฯ รวมถึงทีมที่ตกชั้นมาจากที 1 ทั้ง สุโขทัย เอฟซี, ตราด เอฟซี และ ระยอง 

ที่สำคัญจะมี 3 น้องใหม่มาแรง จากไทยลีก 3 ที่ผงาดเลื่อนชั้นขึ้นมาพร้อมๆ กันอย่างน่ากลัวที่สุด คือ ลำพูน วอริเออร์, เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด และ ราชประชา โดดมาร่วมวงศ์ไพบูลย์ไล่ล่าความสำเร็จด้วยนี่สิ 

ที่สำคัญแต่ละทีมต่างใจร้อน อยากกระโจนพรวดเดียวสู่ไทยลีกกันไปเลยด้วยกันทั้งนั้น 

จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเริ่มมีข่าวการเสริมทัพติดอาวุธหนักกันแต่หัววัน ไม่ว่าจะเป็น ราชันโคขาว ที่เพิ่งเปิดตัว 2 แข้งต่างชาติจากโปลิศเทโร คือ ควอน แด ฮี กองหลังชาวโสม กับ ติอาโก้ ชูลาป้า ดาวยิงแซมบ้า เข้าร่วมก๊วนสดๆ ร้อนๆ 

ส่วนอีกทีมยิ่งน่าจับตากว่า สำหรับ “ค้างคาวมหากาฬ” เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ที่กำลังตกเป็นข่าวรายวันในตลาดซื้อ-ขายนักเตะชนิดร้อนฉ่า 

กับบิ๊กดีลที่ทำเอาหลายคนต้องสะดุ้งเฮือก ไม่ว่าจะเป็น เลอันโดร อัสซัมเซา, สินทวีชัย หทัยรัตนกุล หรือแม้กระทั่ง แดร์เลย์ ดาวเตะบราซิลตัวเก่ง ที่กำลังจะหมดสัญญากับ เอสซีจี เมืองทองฯ ก็อยู่ในลิสต์ล่าตัวของน้องใหม่ลีกรองทีมนี้เช่นกัน 

บังเอิญสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเพิ่งมีโอกาสได้สัมภาษณ์ “บอสต้น” อภิวัฒน์ คณากร ประธานสโมสรหนุ่มไฟแรงของค้างคาวเมืองกาญจน์ ผ่านการไลฟ์สดในรายการ “เม้าส์กีฬาประสาบีบางปะกง”

ทำให้ได้รับรู้ถึงความตั้งใจอย่างแรงกล้าในการเข้ามาทำธุรกิจฟุตบอลอาชีพอย่างจริงจังของเจ้าตัว 

“ประธานต้น” ยืนยันกับผมว่าเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจมาสร้างทีมฟุตบอลให้คนเมืองกาญจน์โดยไม่มีเรื่องของ “การเมือง” เข้ามาเคลือบแฝงแต่อย่างใด 

อยากทำธุรกิจฟุตบอลให้เฟื่องฟู เติบโตขึ้นมาได้ด้วยการลงทุน โดยยึดแนวทางของ ‘บุรีรัมย์’ เป็นต้นแบบ 

เพราะมองว่าจังหวัดกาญจนบุรีบ้านเกิดมีองค์ประกอบทุกอย่างครบ ในการที่จะสร้าง “สปอร์ต ฮับ” ของตัวเองขึ้นมาจากกีฬาลูกหนัง 

เนื่องจากคนเมืองกาญจน์คลั่งไคล้เกมฟุตบอลเป็นทุนอยู่แล้ว ดังนั้นการจะต่อยอดในเรื่องของธุรกิจกีฬาจึงไม่น่าใช่เรื่องยาก 

ซึ่งเพียงแค่ขวบปีแรกของการเริ่มต้นทำทีมเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด “บอสต้น” เผยว่าเขาลงทุนด้วยเงินส่วนตัวไปแล้วไม่ตำ่กว่า 20 ล้าน และได้รับความสำเร็จอย่างงดงามด้วยการตีตั๋วขึ้นลีกรองอย่างรวดเร็วทันใจ 

ดังนั้นก้าวต่อไปคือการมองถึงการเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดให้ได้ภายในปีเดียว 

ซึ่งแน่นอนทุกอย่างต้องลงทุนด้วยเม็ดเงินก้อนใหญ่ขึ้นไปอีกหลายเท่า 

และคราวนี้คงไม่ใช่ตัวเขาเพียงคนเดียว แต่จะเป็นการระดมทุนของสปอนเซอร์และพันธมิตรที่มองเห็นความสำเร็จของทีมลูกหนังเมืองกาญจน์ที่รออยู่เหมือนๆ กัน

นั่นจึงทำให้เขากล้าผุดโปรเจกต์บิ๊กในการสร้างสนามเหย้าแห่งใหม่ ที่เป็น ‘ฟุตบอลสเตเดียม’ โดยเฉพาะขึ้นมาสำหรับค้างคาวเมืองกาญจน์ 

โดยสนามแห่งนี้จะมีความจุแฟนบอลเรือนหมื่น และสร้างเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกาญจนบุรี ที่มีทั้งโรงแรมที่พัก รวมทั้งช็อปปิ้งมอลล์ ทุกอย่างครบวงจร 

ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เพราะโครงการนี้ได้เริ่มเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างแล้ว 

คาดว่าไม่เกิน 3 ปีนับจากนี้ แฟนบอลเมืองกาญจน์ทุกคนจะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของสเตเดี้ยมใหม่เอี่ยมอ่องกันแน่ 

หวังว่าตอนนั้น ‘สโมสรเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด’ ของพวกเราคงได้อยู่ในลีกสูงสุดเรียบร้อยแล้ว

เพราะตนเชื่อมั่นในฝีไม้ลายมือบวกประสบการณ์ที่โชกโชนของคนเป็นกุนซือใหญ่ อย่าง “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ ที่มองเป้าการทำทีมแบบเล็งผลเลิศเช่นเดียวกัน

นั่นจึงทำให้ผมยอมยกตำแหน่ง “น้องใหม่มาแรง (จริง)” ให้เจ้าค้างคาวสีส้มของ “บอสต้น” คนนี้ไป

โดยดุษณี !!!

-- บี บางปะกง --