หน้าแรกแกลเลอรี่

“เซ้นส์” ต้อง “มีเซ้นส์”

พาวเวอร์บอมบ์

4 ก.พ. 2564 09:00 น.

วงการฟุตบอลบ้านเรากลับมาคึกคักกันอีกครั้ง หลัง ศบค.อนุญาตให้กลับมาทำการแข่งขันกันได้

ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ เมื่อวานก็คือฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ทีมในไทยลีก 1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้ถึง 7 ทีมด้วยกัน อันประกอบไปด้วย “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี, “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และ “ช้างขาวเจ้าเกาะ” ตราด เอฟซี

ส่วนอีกทีมเป็น “ค้างคาวมหากาญจน์” เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ทีมจากไทยลีก 3 ซึ่งได้ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ เข้ามาทำทีม และประเดิมการทำหน้าที่ด้วยการพาทีมแผลงฤทธิ์ปลิดชีพ หนองบัว พิชญ เอฟซี ทีมจ่าฝูงไทยลีก 2 ในรอบที่ผ่านมาได้สำเร็จ

ซึ่งในสุดสัปดาห์นี้ฟุตบอลไทยลีกก็จะกลับมาฟาดแข้งกันต่อเนื่องยาวไป ชนิดไม่ให้หยุดพักหายใจหายคอกันเลยทีเดียว ทั้งสัปดาห์มีบอลไทยให้ดูกันเกือบทุกวัน

แต่!!!!!!!!!!!

ข่าวคราวที่ผมได้ยินในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กลับฟังแล้วไม่ระรื่นหูเอาเสียเลย พับผ่า!

ไล่ตั้งแต่การที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จำใจต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับ “ทรูวิชั่นส์” กรณีทำผิดสัญญาการถ่ายทอดสดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จงใจสั่งหยุดการแข่งขันโดยไม่ถามไถ่สปอนเซอร์ (หลัก) จนสุดท้ายต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับ “ทรูวิชั่นส์” เป็นจำนวนเงิน 30 กว่าล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้มีข่าวว่ามีการตกลงเจรจากันลงตัว ด้วยจำนวนเงินดังกล่าวแล้วด้วย

เงินได้ไม่ครบ แถมยังต้องเสียค่าโง่

ตอนนี้บรรดาสโมสรทั้งหลาย เลยกลัวกันตัวสั่นงันงกว่าเงินสนับสนุนที่เคยได้นั้น จะได้มาสักกี่มากน้อย

จากที่รับอยู่ทีมละ 20 ล้านบาท (รับไปแล้ว 5 ล้านบาท) ไม่รู้ว่าจะได้เท่าเดิมอยู่หรือเปล่า ดีไม่ดีเผลอๆ จะโดนเรียกเงินที่ได้มาแล้วคืนด้วยหรือไม่ก็ไม่รู้

ตอนนี้ระส่ำระสายกันไปหมด

ความกังวลยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณขึ้นเมื่อ “อีเลเวน สปอร์ต” (ELEVEN SPORTS) บริษัทผู้ทำแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชันกีฬาชื่อดังระดับโลก จากประเทศอังกฤษ ดันมาถอนตัวออกจากการเป็นพันธมิตร มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท กับ “เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์” (zense entertainment) ในการถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทย 8 ปี พอดิบพอดี

แม้ว่าต่อมา “เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์” จะได้ “เทนเซ็นต์ ประเทศไทย” เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ใหม่ ในการเข้ามาทำแอปพลิเคชัน “เชียร์ไทย” ก็ตาม

แต่ก็ไม่มีใครการันตีได้ว่า เงินที่ร่วมทุนกันตอนแรกมันจะล่องจุ้นหายไปเท่าไร

หนำซ้ำยังมีกรณีที่ ช่อง 7 ไม่ทำการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกในฤดูกาลนี้ต่ออีกด้วย

เท่าที่สอบถามมา เรื่องนี้ช่อง 7 ไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะถ่ายหรือไม่ถ่าย แต่กลับกลายเป็น เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ที่มีอำนาจตัดสินใจว่า จะเอาฟุตบอลไทยลีกมาลงในช่วงเวลาที่ตัวเองซื้อเอาไว้หรือไม่

ซึ่งคำตอบก็คือ “ไม่”

การที่เอาฟุตบอลมาแทนที่ของเกมโชว์แล้วเรตติ้งมันสู้ไม่ได้ ในเชิงธุรกิจมันก็ต้องจบลงด้วยรูปการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้นี่แหละ หลายคนรวมถึงตัวผมเองก็ทำใจไว้ตั้งแต่ก่อนล่วงหน้าแล้ว

เพราะที่นี่คือประเทศไทย

ก็อย่างที่เขียนไปหลายครั้งครับว่า สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าได้เม็ดเงินน้อย ก็คือการเสื่อมความนิยม

ซึ่งผมไม่ได้มโนไปเองแน่ๆ เรตติ้งบอลไทยลีกตอนนี้มันฟ้องอย่างชัดเจน

สุดท้ายสิ่งที่กระเด็นมาเข้าหูผมเมื่อไม่กี่วันมานี้ ก็คือเรื่องของ “ทีมพากย์” ที่ฟังแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

การเปลี่ยนผังทีมพากย์ครั้งล่าสุดมีการ “ทิ่ม” กันเลือดสาด

ถ้า “เซ้นส์” อยากรู้เรื่องก็ลองไปหาตัวคนถือมีดดูสิครับ เขายังอยู่ดีในสังคม

ทุกคนคงพอที่จะทราบกันดีว่า “เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์” เข้ามาช่วยสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในเรื่องนี้ นั่นย่อมหมายความว่าจะต้องมีความแตกต่างเกิดขึ้นจากเดิม ซึ่ง “ทรูวิชั่นส์” ดูแลในส่วนนี้มาก่อน

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

ส่วนตัวแล้วผมเห็นว่าตอนนี้จะไปเน้นแนวการพากย์แบบวาไรตี้ก็คงไม่ว่ากัน เพราะเป็นสไตล์ และแนวทางที่อยากจะ “สร้าง” เพื่ออนาคต (ตัวเอง) แต่อย่างน้อยก็ขอให้มีข้อมูล เป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือเสียหน่อยก็ยังดี

ความรู้สึกของคนที่เป็นแฟนบอล เขาคงอยากดูบอลที่พากย์แล้วเป็นการเพิ่มอรรถรสความสนุกสนานมากกว่า

คงไม่น่าจะคาดหวังว่าดูบอลแล้วจะรู้สึกตลกโปกฮา แถมฮาฝืดๆ อีกต่างหาก

ใครเหมาะ ใครไม่เหมาะ ต้องดูออกตั้งแต่ทีมงานเลือกตัวแล้วครับ

จริงๆ ผมก็เห็นใจเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ต้องถือว่าไม่มีประสบการณ์ทางด้านกีฬามากนัก และก็ยังจะเอาใจช่วยต่อไป เพราะต้องอยู่กันยาวไปถึง 8 ปี (หวังว่า)

แต่ “เซ้นส์” เอง ก็ต้อง “มีเซ้นส์” หน่อยมั้ยครับ!!!

พาวเวอร์บอมบ์