ไทยรัฐออนไลน์
สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ลงโทษแบน 1 ปี นายอนุสรณ์ แสงเนตร ที่ลงทำหน้าที่ศึกไทยลีก 3 นัด นนทบุรี ยูไนเต็ด เสมอ พราม แบงค็อก 1-1 เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 63 หลังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายข้อ
วันที่ 21 ต.ค. 63 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดย คณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ มีคำสั่งลงโทษแบน 1 ปี ผู้ตัดสินไทยลีก 3 นายอนุสรณ์ แสงเนตร ที่ลงทำหน้าที่นัดเปิดสนามไทยลีก 3 โซนกรุงเทพฯ คู่ระหว่าง นนทบุรี ยูไนเต็ด เสมอ พราม แบงค็อก 1-1 เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 63 หลังจากที่สโมสร พราม แบงค็อก ได้ร้องเรียนเรื่องการทำหน้าที่ในเกมดังกล่าว
โดยคณะกรรมการสรุปความผิดจากหลักฐานผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย สรุปว่า ทำผิดหลายกรณี ประกอบด้วย
1.1 พูดคำหยาบ (อวัยวะเพศชาย) และท้าทายใส่นักกีฬาสโมสรพราม แบงค็อก ตลอดเวลา
1.2 พูดคุยกับนักกีฬาสโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ว่า "ใจเย็นๆ เดี๋ยวกูเป่าโทษให้"
1.3 ตะคอกใส่นักกีฬา พราม แบงค็อก ว่า "มึงไปร้องเรียนเลย กูไม่กลัวมึงหรอก"
1.4 ได้พูดติดต่อกับผู้ช่วยผู้ตัดสินว่าอย่าเพิ่งยกทดเวลา ในขณะที่หมดเวลาการแข่งขันไปแล้ว โดยที่นักกีฬาของ พราม แบงค็อก ได้ยินกันชัดเจน
โดยจากรายงานผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ ได้พิจารณาข้อร้องเรียน-ประท้วงคำตัดสิน จากหลักฐานคลิปภาพส่วนกลาง และคลิปภาพที่สโมสรฯ ส่งมา พร้อมได้สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่จัดแข่งขันที่เกี่ยวข้องทางโทรศัพท์ได้โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเหตุการณ์จากผู้ตัดสิน ตรวจสอบข้อมูลจากรายงานผู้ตัดสินและรายงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบการพิจารณาแล้ว
สรุปจากคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ได้พิจารณาจากรายงานของคณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ และจากการดูคลิปเหตุการณ์ประกอบแล้ว เห็นด้วยกับการพิจารณาของ คณะอนุกรรมการฯ แต่ยังไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษ คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษนายอนุสรณ์ แสงเนตร ผู้ตัดสิน ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยจรรยา สำหรับนักกีฬาอาชีพและบุคลากรกีฬาอาชีพ ในความดูแลของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์พ.ศ. 2560 หมวด 1 จรรยาของนักกีฬาอาชีพและบุคลากรกีฬาอาชีพ ข้อ 3 (3) ใช้วาจาสุภาพและให้เกียรติบุคคลอื่น (10) ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุนักกีฬาอาชีพที่เข้าร่วมการแข่งขัน และ (11) ต้องรักษาชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของสมาคมและวงการกีฬาฟุตบอล ประกอบกับ หมวด 3 บทกำหนดโทษ ข้อ 10.9 ให้พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 ถึง วันที่ 15 ตุลาคม 2564