ตองเจ
ลือกันสนั่นในโลกโซเชียลว่าการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของไทย “ไทยพรีเมียร์ลีก” มีโอกาสกลับมาฟาดแข้ง เร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือน ก.ย.
ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกบอลไทย ยืนยันผ่านหน้าหนังสือพิมพ์อย่างครึกโครมว่า โปรแกรมทุกอย่างเป็นไปตามเดิม
ไม่มีทางที่จะกลับมาเตะได้เร็วขึ้น
แม้รัฐบาลจะประกาศปลดล็อกในเฟส 4 สามารถ จัดการแข่งขันได้แล้วก็ตาม
เพราะร่างระเบียบจัดการแข่งขันที่สมาคมฯ ส่งไปให้ทาง ศบค. พิจารณายังมีบางข้อที่ทาง ศบค.ขอปรับแก้ไขอีกเล็กน้อยเพื่อให้ทุกอย่างมีความปลอดภัยมากที่สุด
ทำให้กระแสข่าวลือในโลกโซเชียลกับการยืนยัน ของ “บิ๊กอ๊อด” มันช่างสวนทางกันเหลือเกิน
อย่าลืมว่าถ้าไม่มีมูลก็คงไม่มีข่าวลือแพร่สะพัด ออกมาแบบนี้แน่นอน
แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ข่าวลือเรื่องการเลื่อนเตะเร็วขึ้น บางสโมสรรู้แต่บางสโมสรดันไม่รู้ หรือ ว่าจะรู้เฉพาะพรรคพวกเดียวกันเพื่อที่จะได้เตรียมตัวได้ทันในการที่จะเริ่มคิกออฟเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายคนน่าจะคิดเหมือนกัน คือทำไมบอลลีกของไทยเลื่อนเตะเร็วขึ้นไม่ได้ ทั้งที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว แถมการติดเชื้อในไทยก็ไม่มีมาแล้วกว่า 1 เดือน
ที่สำคัญลีกในต่างแดนเขาทยอยเตะกันหมดแล้ว บางลีกอย่าง “บุนเดสลีกา” ก็ปิดไปแล้ว
การที่ฟุตบอลลีกของไทยจะเร็วขึ้นหรือไม่น่าจะอยู่ที่สมาคมลูกหนังว่ามีความกระตือรือร้นหรือจริงใจมากน้อยแค่ไหนที่อยากจะเตะให้จบเร็ว
จนหลายคนหลายสโมสรต่างตั้งคำถามที่เหมือนกันว่าโปรแกรมบอลลีกจะเตะเร็วหรือช้า
ตามเดิม หรือเลื่อน “ขึ้นอยู่กับใคร” หรือเปล่า
ผมว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ความใส่ใจของท่านประมุขลูกหนังเพียงคนเดียว
ยกตัวอย่างสมาคมจักรยานของ “เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี ที่เอาใจใส่มีการเดินเรื่องเตรียมทำเอกสารส่งให้ทาง ศบค. พิจารณาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ปรับแก้ไขจนสะเด็ดน้ำเพื่อเตรียมที่จัดการแข่งขันหากได้รับสัญญาณ
สุดท้ายสมาคมจักรยานก็สมหวังได้จัดการแข่งขันตามที่ตั้งใจไว้
อย่างที่บอกทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่ “บิ๊กอ๊อด” แล้วครับว่าอยากให้เป็นอย่างไร
ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาและการกระทำครับ.
ตองเจ