ยังขาด“เจ”ไม่ได้ (จริงๆ)

ยังขาด“เจ”ไม่ได้ (จริงๆ)

ก็เป็นไปตามที่ กุนซือมาซาทาดะ อิชิอิ ได้แถลงข่าวไว้ก่อนเกมจริงๆ

กับการเฉือนชนะ ศรีลังกา ทีมอันดับที่ 200 ของโลกได้เพียงแค่ 1-0

ว่าชนะแค่ลูกเดียวก็ได้ 3 แต้มเหมือนกัน

ในเกมประเดิมสนามศึกเอเชี่ยนคัพ 2027 รอบคัดเลือก เมื่อวานที่ผ่านมา

อันที่จริงฟอร์มการเล่นของนักเตะไทยโดยรวม ก็เป็นไปตามมาตรฐานตัวเองแล้วล่ะครับ

เพียงแต่เราใช้จังหวะสุดท้าย (โคตะระ) เปลืองเกินไป

โดยเฉพาะเกมในครึ่งหลังที่มีโอกาสยิงประตูนับครั้งไม่ถ้วน

แต่ทำยังไงๆ ก็ยังบวกลูกที่สองไม่ได้ซักกะที สุดท้ายก็เลยเฉือนศรีลังกาไปได้เม็ดเดียว

แถมประตูชัยที่ได้จาก พาตริก กุสตาฟสัน ในท้ายครึ่งแรก ยังเกิดจากความผิดพลาดของนายทวารทีมเยือน อีกต่างหาก

นี่ถ้าไม่ได้ลูกนี้ แล้วเกิดเสมอ 0-0 ขึ้นมา ไม่อยากจะคิดเลย ว่า “สำเพ็งจะไหม้” ซักแค่ไหน!?

เพราะขนาดเก็บชัยชนะ 2 แมตช์รวดในช่วงฟีฟ่าเดย์ กับทีมที่แรงกิ้งฟีฟ่าต่ำกว่า

อันดับโลกของเรายังร่วงลงมาถึง 2 อันดับ มาอยู่ที่ 99 ของโลกหน้าตาเฉย...เลยพับผ่า!

สรุปว่าเกมนี้ แข้งช้างศึกคว้าชัยชนะได้ตามเป้า แต่สกอร์ที่ออกมายังไม่สะใจพระเดชพระคุณท่าน อย่างที่ควรจะเป็น

เห็นจังหวะจบสกอร์ที่ไร้ซึ่งความเฉียบคมของกองหน้าไทยยุคใหม่แบบนี้แล้ว

ทำให้อดนึกถึง “พี่มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ของน้องๆ ขึ้นมาไม่ได้

เชื่อว่าเกมกับ ศรีลังกา ถ้าเรามีตัวเก๋า อย่าง ธีรศิลป์ ยืนหัวหอก ยังไงก็ต้องได้ประตูเพิ่ม

สำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่ เรื่องอายุไม่น่าต้องซีเรียส

คนเป็นโค้ชที่ดี ต้องรู้จักเลือกใช้นักเตะที่จะสร้างประโยชน์ให้กับทีมมากที่สุก ณ ห้วงเวลานั้นๆ ถึงจะถูก

โค้ชอิชิอิ บอกว่าไม่ได้ใส่ชื่อ “มุ้ย” ลงไปในลิสต์ 50 ตัวเลือกเอเชี่ยนคัพ ก็ไม่เป็นไร

เพราะกฎ เอเอฟซี เขาเปิดช่องให้เปลี่ยนรายชื่อได้เสมอ ซึ่งตรงนี้กุนซือมาซะ น่าจะลองทบทวนดูใหม่

เกมระดับเอเชีย ไม่ว่าเจอทีมใหญ่ ทีมเล็ก เดี๋ยวนี้ไม่มีงานง่ายแล้วครับ

แมตช์ต่อไปโจทย์ของทีมชาติไทยจะยากขึ้น เพราะต้องยกพลไปเยือน เติร์กเมนิสถาน ที่บุกไปเอาชนะ ไต้หวัน มาในเกมแรก เดือน มิ.ย.นี้

ถ้าได้ 3 แต้มกลับบ้าน โอกาสคว้าแชมป์กลุ่มจะสดใสทันที

หรือถ้าเกิดเสมอก็ยังไม่เสียหาย ค่อยมาเช็คบิลในบ้าน

แต่ถ้าพลาดพ่ายแพ้ขึ้นมา ทีนี้เป็นเรื่องล่ะครับ เพราะทัวร์นาเมนต์นี้ เขาเอาที่ 1 เข้ารอบแค่ทีมเดียว

แมตช์ที่เหลือรับรอง...เหนื่อยหนักแน่นอน!

ดังนั้นถ้าโค้ชซามูไรฉลาดพอ ต้องเลือก “ขุมกำลังที่ดีที่สุด” เอาไว้ใช้งานอยู่เสมอ…มันถึงจะอุ่นใจ

เช่นเดียวกับ “กัปตันเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เพิ่งคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมกับศรีลังกา

ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นาทีนี้ยังหาใครมาแทนเขาไม่ได้จริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นชั้นเชิง ลีลา ความทุ่มเท คลาสบอล ครองบอล และประสบการณ์ทุกอย่าง

ที่เจ้าตัวยังเหนือชั้นกว่ารุ่นน้องทุกคน แบบเทียบกันไม่ได้

ชนิดที่เรียกว่า “ขาดเจ เหมือนขาดใจ” กันเลยทีเดียว

จะสร้างทีมชาติไทยเจเนเรชั่นใหม่ เพื่อบอลโลก 2030 ก็สร้างไป

แต่ต้องบริหารผลงานปัจจุบัน ให้ตอบสนองกับความรู้สึกของแฟนบอลชาวไทยด้วย

มันถึงจะตอบโจทย์...อย่างแท้จริง !!!

บี บางปะกง
joggingboy_be@yahoo.com