บี บางปะกง
ทำหน้าที่...ให้ดีที่สุด
บอกไว้แล้วว่า ทีมชาติไทย เจอ มาเลเซีย เมื่อไหร่ ไม่มีคำว่างานง่ายแน่นอน
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ กับเกมอาเซี่ยนคัพ 2024 รอบแบ่งกลุ่ม ที่แข้งช้างศึก เฉือนเอาชนะ เสือเหลือง ไปได้แบบหืดจับ 1-0
โดยได้ประตูชัยจากอานิสงฆ์การเล่นผิดพลาดของนายทวารมาเลย์
ที่ถูก ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา วิ่งเข้าไปบล็อค ก่อนจะไหลต่อมาให้ พาตริก กุสตาฟส์สัน ยิงจ่อๆเข้าไปไม่ยากเย็น
เรียกว่าถ้าไม่มีประตูนี้ในต้นครึ่งหลัง ป่านนี้ไทยก็คงโดนเสือเหลือง บุกมาแบ่งแต้มกลับบ้านไปได้แล้วล่ะ!
เพราะรูปเกมโดยรวมในนัดนี้ ต้องเรียนตามตรงเลยว่า เราไม่ได้ดูดีหรือเหนือไปกว่าทีมเยือนสักเท่าไหร่เลย
ยังมีอีกหลายจุด หลายข้อบกพร่อง ที่เป็นการบ้านให้โค้ชมาซาทาดะ อิชิอิ ต้องเอาไปปรับปรุงแก้ไข
และจูนเครื่อง ในแต่ละตำแหน่ง ให้ดู “นิ่ง” ลงตัว ลงล็อคมากกว่านี้ ด้วยทรัพยากรนักเตะชุดสายเลือดใหม่ที่มีอยู่ในมือ
โดยเฉพาะห้องเครื่องในแดนกลาง ที่ดูเหมือนจะมี “เตอร์” วีระเทพ ป้อมพันธ์ เพียงคนเดียว ที่พอฝากความหวังไว้ได้ทั้งเกมรุกและรับ
ส่วนคนอื่น ยังดูเกร็งๆ ไม่ค่อยไหลลื่นเป็นธรรมชาติ
ที่สำคัญเสียบอลง่าย จ่ายขาดๆเกินๆ จังหวะจับลูกหลุดบ่อย จนคู่แข่งได้โอกาสสวนอยู่หลายครั้ง
ยังดีที่เกมรับเราไม่พลาด และได้ 3 คะแนนสำคัญในบ้าน จนขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของ กลุ่ม เอ ในที่สุด
ซึ่งเกมต่อไปที่จะต้องไปเยือนสิงคโปร์ ที่มี 6 แต้มเท่ากัน ในวันอังคารนี้ ถือเป็นการชิงแชมป์สาย การันตีการเข้าตัดเชือกอย่างแท้จริง
เสียดายครับที่หลังจบเกม ไม่ค่อยมีคนพูดถึงแมตช์บุกลอดช่องเท่าใดนัก
เพราะมัวแต่ไปโฟกัสถึงประเด็น “ดราม่า” เรื่องนักฟุตบอลเดินขอบคุณกองเชียร์รอบสนาม…กันซะหมด
โดยพุ่งเป้าไปที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประมุขลูกหนัง กับกุนซือซามูไร มาซาทาดะ อิชิอิ ที่มองเรื่องนี้ต่างกัน
อิชิอิ ต้องการให้นักเตะรีบไปพักผ่อน เพราะต้องบินไปสิงคโปร์ในตอนเช้า
ส่วน นายกแป้ง ขอให้ทุกคนเสียสละเวลาไปขอบคุณแฟนบอล ที่อุตส่าห์ตีตั๋วเข้ามาเชียร์แข้งช้างศึกถึงขอบสังเวียน
เรื่องนี้ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ทั้งสองฝ่ายคือผู้บริหาร กับ คนทำทีม ไม่ได้สื่อสารกันก่อนล่วงหน้า
ต่างคนต่างทำตามความตั้งใจของตัวเอง
สุดท้ายก็เลยปรากฎเป็นภาพอย่างที่เห็น คือไม่ได้ไปในแนวทางเดียวกันเหมือนที่เคยมา
คนก็เลยเข้าใจไปต่างๆนานา ว่า อิชิอิ ไม่พอใจมาดามแป้ง หรือเปล่า?
อย่างนี้กุนซือซามูไร สงสัยจะโดนปลดพ้นเก้าอี้แน่ ในอีกไม่ช้า เพราะดันไปงัดข้อกับผู้ใหญ่
สุดแท้แต่จะตีความกันไปสารพัด ตามแต่ใจจะแต่ละคนรู้สึกนึกคิด
หรือมีอคติ หมั่นไส้ใคร เป็นทุนเดิม อยู่ก่อนแล้ว
ทั้งที่จริงๆ ตัว นายกนวลพรรณ กับ โค้ชอิชิอิ เค้าไม่ได้ติดใจอะไรกันเลย
พอรู้ถึงเจตนารมณ์ของกันและกันแล้ว ทุกอย่างก็จบ ไม่มีปัญหาติดค้างใดๆทั้งสิ้น
ทั้งคู่ต่างเคารพในการทำหน้าที่ซึ่งกันและกันมาโดยตลอด เรื่องที่เกิดขึ้นมาแค่นี้มันจิ๊บจ๊อยมาก
เมื่ือเทียบกับภารกิจที่แต่ละคนต้องแบกอยู่เต็มสองบ่า โดยเฉพาะความคาดหวังของแฟนลูกหนังชาวไทยทั้งประเทศ
ที่ปรารถนาอยากจะเห็นฟุตบอลบ้านเรา พัฒนา เดินไปข้างหน้า กันอย่างจริงจังเสียที
เอาเป็นว่า เรื่องนี้ผมสรุปให้เลยแล้วกันครับ ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ใดๆทั้งสิ้น
หยุด “ดราม่า” แล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด จะดีกว่า
คนเป็นโค้ชคุมทีมให้เต็มที่ ผู้บริหารซัพพอร์ตทุกองคาพยพ ให้สุดกำลัง นักเตะก็ทำผลงานตัวเองให้ยอดเยี่ยม
ส่วนกองเชียร์อย่างพวกเราไม่ต้องอะไรมาก
แค่คอยเป็นกำลังใจชั้นดี ให้ทีมชาติไทย ในทุกเกมที่ลงสนาม
เท่านั้นก็เกินพอ...แล้วล่ะมั้ง !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com