หน้าแรกแกลเลอรี่

แมตช์นี้ไม่มีวันลืม !!

บี บางปะกง

12 ธ.ค. 2567 04:00 น.

แมตช์นี้ไม่มีวันลืม !!

หลังจากที่ทีมชาติไทย เปิดหัวในศึกชิงเจ้าอาเซียนได้อย่างสุโค่ยสุดๆ

ด้วยการระเบิดตาข่ายทีมรองบ่อน อย่าง ติมอร์ เลสเต กระจุยกระจายถึง 10 ประตู ต่อ 0

ส่งให้ 7 แข้งช้างศึก ติดโผทีมยอดเยี่ยม ศึกอาเซียนคัพ 2024 นัดแรก ไปถึง 7 คนด้วยกัน

ไม่ว่าจะเป็น นิโคลัส มิคเกลสัน,พรรษา เหมวิบูลย์,เบน เดวิส,พาตริก กุสตาฟส์สัน,ธีรศักดิ์ เผยพิมาย

รวมทั้ง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ เสกสรรค์ ราตรี ที่ได้คะแนนความสามารถ เต็ม 10 กันเลยทีเดียว

ซึ่งตอนนี้โฟกัสของทีมชาติไทย ก็จะไปอยู่ที่เกมแมตช์สอง ซึ่งจะกลับมาปักหลักเล่นเกมเหย้าที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

พบกับทีม “เสือเหลือง” มาเลเซีย คู่ปรับตลอดกาล ที่ถูกกะเก็งกันว่าจะเป็นเกมที่ตัดสินการเข้ารอบของทีมช้างศึกชุดนี้…อย่างแท้จริง!

การเจอกับมาเลย์ ไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน ไม่เคยมีงานง่ายอยู่แล้ว สำหรับนักเตะไทย

เพราะนี่คือ “ศึกแห่งศักดิ์ศรี” ของชาติอาเซียน ที่วัดศักยภาพในเชิงลูกหนังกันมาตลอด ตั้งแต่อดีตยันถึงปัจจุบัน

ผลัดกันรุ่งโรจน์ รุ่งริ่ง สลับกันไปในแต่ละห้วงเวลา ที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัฎจักร

ซึ่งบ่อยครั้งที่พลพรรคเสือเหลืองนี่แหละ ทำให้แข้งไทยต้องพบกับความผิดหวัง ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ในทัวร์นาเมนต์อาเซียนคัพ อยู่เนืองๆ

โดยล่าสุด เกมฟาดแข้ง เอเอฟเอฟ 2022 ที่ทีมช้างศึก แชมป์เก่าเมื่อคราวที่แล้ว ต้องพลาดท่าพ่ายแพ้คู่แข้งเพียงเกมเดียวเท่านั้น

ก็คือการบุกไปโดน มาเลเซีย เฉือนชนะ 1-0 ที่สังเวียนบูกิต จาลิล ในแมตช์ตัดเชือก เกมแรก เมื่อต้นปีที่แล้ว

ก่อนที่ลูกทีมของ มาโน โพลกิง จะกลับมาเอาคืนทันควัน ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต ด้วยการถล่มชนะไปขาดลอย 3-0

รวมผล 2 นัด แข้งช้างศึกชนะไปได้ 3-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ เวียดนาม ก่อนจะคว้าแชมป์อาเซี่ยน สมัยที่ 7 มาครองได้สำเร็จ

แต่เกม ‘ไทย vs มาเลย์’ ที่เป็น “แผลใจ” ของแฟนบอลชาวไทย ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะจำได้ไม่มีวันลืม มากที่สุด

น่าจะเป็น รอบรองชนะเลิศ อาเซียนคัพ 2018 นัดที่สอง ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2561

โดยแมตช์แรก ทีมชาติไทย ภายใต้การนำทัพของ มิโลวาน ราเยวัช บุกไปเสมอทีมเสือเหลือง แบบโนสกอร์ 0-0

ทำให้กองเชียร์ต่างมั่นอก มั่นใจว่า เกมที่สองซึ่งเตะกันในวันพ่อแห่งชาติพอดี เราจะเผด็จศึก มาเลเซีย ผ่านเข้าไปชิงอีกสมัยได้ไม่ยากเย็น

ซึ่งเกมช่วงแรกก็น่าจะเป็นใจให้เรา เมื่อ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มาเบิกประตูแรกให้แข้งช้างศึกขึ้นนำไปก่อน

แต่ทีมเยือน ก็สู้ยิบตาและมาตีเสมอเป็น 1-1 ในครึ่งแรก จากลูกยิงไกลสุดสวยของ ซยาห์มี ซาฟารี

ครึ่งหลัง ไทยขึ้นนำอีกครั้งจาก “เจ้าโย่ง” พรรษา เหมวิบูลย์ ซึ่งเป็นผู้เล่นช้างศึกเพียงคนเดียว ที่ยังหลงเหลืออยู่ ในทีมชาติชุดนี้

ก่อน นอร์ชาห์รูล อิดฮาน ตาลาฮา จะกลับตัวยิงให้ มาเลย์ ตามเสมอ 2-2

จนมาถึงช่วงทดเจ็บ ไทย มาได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลในเขตโทษ

แต่ อดิศักดิ์ ไกรษร ดันมาพลาดยิงจุดโทษข้ามคานออกไป ทำให้ไทยชวดคว้าชัยชนะอย่างเหลือเชื่อ

กระเด็นตกรอบด้วยกฎอเวย์โกล อย่างชีช้ำกะหล่ำปลี เป็นที่สุด!

นั่นคือความทรงจำอันสุดเจ็บปวด ที่แข้งเสือเหลืองเคยฝากรอยแค้นเอาไว้ในการพบกันที่สนามราชมังคลาฯ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว

และค่ำวันเสาร์ที่ 14 ธ.ค.นี้ ทั้งสองชาติ คู่รัก คู่แค้น แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะต้องโคจรมาพบกันอีกครั้ง ที่สังเวียนแห่งนี้

ทีมช้างศึกยุคผลัดใบ ของกุนซือซามูไร มาซาทาดะ อิชิอิ ที่ใช้ผู้เล่นดาวรุ่งสายเลือดใหม่เป็นแกนหลัก

จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติมาเลเซีย ที่ขาดตัวหลักจากสโมสรยะโฮร์ ดารุล ทักซิม

แต่ก็ใช้บริการนักเตะโอนสัญชาติฝีเท้าดี ในเอ็มลีกมาทดแทน เต็มพิกัด

การยิงสลุตติมอร์ถึงสิบลูก ในเกมประเดิมสนาม ถือเป็นการอุ่นเครื่องซ้อมใหญ่ของนักเตะไทย

ทัวร์นาเมนต์ “อาเซียนคัพ 2024” ของพวกเราจะเริ่มเปิดฉากกันจริงๆ ก็ตั้งแต่แมตช์นี้เป็นต้นไป

บอลเตะตรงกับวันเสาร์ วันหยุดพอดีเสียด้วย

ก็อยากเชิญชวนให้แฟนบอลชาวไทย รวมพลังกันไปเชียร์นักเตะช้างศึกบู๊เสือเหลืองกันเยอะๆ ที่ขอบสนาม

โดยทุกท่านสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน เกมเหย้าของทีมชาติไทย ได้ที่ https://bit.ly/3V9txcR

และจุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สาขาหลัก 11 สาขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

หรือถ้าใครไม่มีเวลา ก็เปิดชมการถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32 , AIS PLAY และ ยูทูป : BG SPORTS ได้ ในเวลา 2 ทุ่มตรง

ดูทางทีวีไม่สะดวก ต้องลำบากไปงัดหาเสาก้างปลามาใช้ ก็ดูทางออนไลน์แบบถูกลิขสิทธิ์ได้เลย.....

ทาง เฟซบุ๊ก, ยูทูบ thairath sport , www.thairath.co.th/sport ตั้งแต่ 19.45 น.

นั่นแหละ...ชัวร์ป้าบ ไม่มีผิดหวังแน่นอน ผมการันตี !!!

- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com