หน้าแรกแกลเลอรี่

มั่นใจไหม KBU SPORT POLL เผยผลสำรวจ โอกาส "ทีมชาติไทย" ชนะฟิลิปปินส์-เข้าชิงคิงส์คัพ

ไทยรัฐออนไลน์

7 ต.ค. 2567 20:30 น.

มั่นใจแค่ไหน KBU SPORT POLL เผยผลสำรวจแฟนบอล โอกาส "ทีมชาติไทย" ชนะ "ฟิลิปปินส์" - เข้าชิงคิงส์คัพ 2024

วันที่ 7 ตุลาคม 2567 จากการที่นักฟุตบอลทีมชาติไทยจะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม 2567 ณสนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลานั้น

เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและสะท้อนมุมมองของแฟนกีฬาตลอดจนประชาชนทั่วไป KBU SPORT POLL มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตร่วมกับสถาบันการจัดการกีฬาเพื่อองค์กรกีฬา (WISDOM) จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง “ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ กับโอกาสของทัพช้างศึก” 

สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2567 โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจข่าวสารทางการกีฬาซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวนจำนวน 1,173 คน

กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็นเพศชาย 701 คน คิดเป็นร้อยละ 59.76 เพศหญิง 419 คน คิดเป็นร้อยละ 35.73 และ LTBGTQIA+ 53 คน คิดเป็นร้อยละ 4.51 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ โดยภาพรวมพบว่า

โอกาสในการเก็บชัยชนะจากการพบกับทีมชาติฟิลิปปินส์ (11 ตุลาคม 2567) ส่วนใหญ่ร้อยละ 37.50 เชื่อว่า มีโอกาสมาก รองลงมาร้อยละ 33.20 มีโอกาสค่อนข้างมาก ร้อยละ 11.10 มีโอกาสค่อนข้างน้อย ร้อยละ 7.00 มีโอกาสน้อย ร้อยละ 6.90 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 4.30 ไม่มีโอกาสเลย 

โอกาสในการเข้ารอบชิงชนะเลิศ (14 ตุลาคม 2567) ส่วนใหญ่ร้อยละ 32.10 มีโอกาสค่อนข้างมาก รองลงมาร้อยละ 31.60 มีโอกาสมาก ร้อยละ 18.40 มีโอกาสค่อนข้างน้อย ร้อยละ 10.30 มีโอกาสน้อย ร้อยละ 4.90 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 2.70 ไม่มีโอกาสเลย  

ความพึงพอใจที่มีต่อศักยภาพและความสามารถของนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมทีมชาติ ส่วนใหญ่ร้อยละ 34.70 พอใจในระดับมาก รองลงมาร้อยละ 32.10 พอใจในระดับมากที่สุด ร้อยละ 18.50 พอใจในระดับปานกลาง ร้อยละ  9.30 พอใจในระดับน้อย ร้อยละ 3.60 พอใจในระดับน้อยที่สุด และร้อยละ 1.80 ไม่แสดงความคิดเห็น

ปัจจัยที่จะนำไปสู่ความหวังและโอกาสแห่งสำเร็จของทีมชาติไทย ส่วนใหญ่ร้อยละ 31.90 ศักยภาพและความพร้อมของนักกีฬา รองลงมาร้อยละ 28.10 ศักยภาพและความสามารถของหัวหน้าผู้ฝึกสอน ร้อยละ 24.70 สภาพแวดล้อมและระยะเวลาในการเตรียมทีม ร้อยละ 9.80 แรงเชียร์จากแฟนบอลและการสนับสนุนของผู้เกี่ยวข้อง ร้อยละ 3.60 ศักยภาพและความสามารถของทีมคู่แข่งขัน และอื่นๆ ร้อยละ 1.90  

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการสำรวจดังกล่าวเมื่อพิจารณาถึงโอกาสของทัพช้างศึกกับความสำเร็จ โดยเฉพาะการเข้าชิงชนะเลิศจะเห็นได้ว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่จะมองไปในทิศทางเดียวกันว่าทีมชาติไทยมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก

จากความหวังและโอกาสดังกล่าวอาจจะเป็นเพราะมีปัจจัยมาเกื้อหนุนในหลากหลายมิติทั้งด้านของสภาพแวดล้อมในฐานะเจ้าบ้านที่มีแฟนบอลคอยหนุนหลังรวมทั้งศักยภาพและความพร้อมของนักเตะตลอดจนความสามารถของกุนซือจากแดนปลาดิบอย่าง “มาซาทาดะ อิชิอิ”

อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ทัพนักเตะทีมชาติไทยจะประสบความสำเร็จสามารถทะยานเข้าชิงและคว้าแชมป์นำถ้วยพระราชทานมาครองได้หรือไม่นั้นนอกจากปัจจัยที่แฟนกีฬาสะท้อนแล้ว การเตรียมความพร้อมของจังหวัดเจ้าภาพ เพื่อให้เกมการแข่งขันแห่งศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยภายใต้มาตรฐานสากลและสอดคล้องกับการรับรองของฟีฟ่าที่ยกให้การแข่งขันดังกล่าวเป็น A แมตช์ ก็ถือว่าฟุตบอลรายการนี้จะสมบูรณ์และบรรลุเป้าประสงค์ในทุกมิติได้เช่นกัน