บี บางปะกง
รักพี่...อย่าลืมน้อง!!
กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง...กันอีกครั้ง สำหรับทีมลูกหนังชาติไทยของเรา
ความปราชัยคาบ้านด้วยสกอร์ 0-3 ต่อ ทีมพลังโสม เกาหลีใต้
ไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
ทุกอย่างเป็นเรื่องของมาตรฐานฝีเท้า และเพดานความสามารถของนักเตะล้วนๆ ที่ทุกคนต้องยอมรับโดยดุษณี
ทีมที่ไปบอลโลกแบบขาประจำของทวีปเอเชีย
กับทีมที่พยายามสานฝันไปบอลโลก แต่ยังไม่เคยทำสำเร็จสักที!
รอยห่างมันก็จะประมาณนี้...นี่แหละ
ดังนั้นการที่เราบุกไปเก็บ 1 แต้มออกมาได้จากแดนกิมจิ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จึงถือเป็นกำไรมหาศาล และเป็นไปตามเป้าทุกประการ...แล้วละครับ สำหรับเกมคัดบอลโลก รอบนี้
ซึ่งทุกคนทำกันอย่างดีที่สุด เท่าที่จะทำได้
ไม่ว่าจะเป็น ขุนพลช้างศึก ที่สู้กับพี่หลีเกินร้อยแรงถีบ ในทุกกระบวนท่า
โดยทรงบอลและวิธีการที่แสดงออกมา ต้องบอกว่าไม่ใช่เราเล่นไม่ดี
แต่ที่ทีมชาติไทย ต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างขาดลอย
นั่นเพราะแข้งโสมเขาดีกว่าเรานั่นเอง...ไม่มีอะไรต้องคิดมากหรอก
หน้าที่ของทัพช้างศึก และกุนซือ มาซาทาดะ อิชิอิ หลังจากนี้
คือต้องกลับมาเพ่งสมาธิให้กับอีก 2 เกมที่เหลือ ในอีก 2 เดือนข้างหน้า ให้มากที่สุด
โดยเฉพาะวันที่ 6 มิ.ย. แข้งไทยต้องไปเยือนทีมชาติจีนแผ่นดินใหญ่ ถึงรัง ถือว่าสำคัญที่สุด
เปรียบเสมือนนัดชี้ชะตาอย่างแท้จริง ว่าเราจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้
เพราะเงื่อนไขคือไทย “ห้ามแพ้” เด็ดขาด! ไม่งั้นชอยส์เก็บฉากทันที
ยังไงต้องบุกชนะล้างตาทีมแดนมังกรให้ได้ หรือไม่อย่างน้อยก็ต้องมีหนึ่งแต้มกลับออกมา
เพื่อจะได้ลุ้นต่อในเกมสุดท้ายวันที่ 11 มิ.ย. ด้วยการเปิดบ้านถล่มสิงคโปร์ แล้วลุ้นให้จีนบุกไปแพ้เกาหลี
เราจึงจะมีโอกาสสมหวังได้...ในท้ายที่สุด!
ยินดีกับ “นายกแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ประเดิมงานแรกในฐานะประมุขลูกหนังไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นานๆ ทีจะได้เห็นฟุตบอลไทยพ่ายแพ้ แต่ไม่มีกองเชียร์ต่อว่าด่าทอ
เพราะทุกคนตั้งใจทำงานหนักในหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่
ขอบคุณแรงใจ แรงเชียร์ จากแฟนบอลชาวไทยทั่วประเทศ
ที่ทำให้กระแสศรัทธาของทีมชาติไทย กลับคืนมาอีกครั้ง
เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แม้ทีมชาติชุดใหญ่จะผิดหวังไม่มีแต้ม ในช่วงค่ำ
แต่ยังดีที่ช่วงดึก ทีมช้างศึก ยู23 ก็คว้าชัยเหนือ ยูเออี 1-0
หนีบ๊วยในศึกในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก WAFF U23 Championship ได้สำเร็จ
ทั้งที่สภาพทีมโดยรวมแทบไม่มีความพร้อมใดๆ เลย
เนื่องจากขาดตัวหลักไปแทบทั้งทีม
น่าเห็นใจคนทำทีม อย่าง “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร เป็นยิ่งนัก เพราะเดือนหน้านี้แล้วที่ต้องเจอของจริง
กับศึกชิงแชมป์เอเชีย ยู23 ที่ประเทศกาตาร์ ที่จะชิงตั๋วไปฟุตบอลโอลิมปิก ปารีส 2024
ทัวร์นาเมนต์สำคัญขนาดนี้ แต่เรายังชั่งนำ้หนักไม่ถูกว่าจะส่งนักเตะชุดหลัก หรือนักเตะชุดรอง ไปแข่งดี
ถ้าไทยแลนด์คิดจะเป็น “เต้ย” เอเชีย ในวันข้างหน้า
ทั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และสโมสร ต้องช่วยกันตีโจทย์ใหญ่นี้ให้แตก
ไม่ใช่อ้างเงื่อนไข “ฟีฟ่าเดย์” มาเป็นอุปสรรคท่าเดียว
เอาใจใส่ ‘ทีมพี่’ น่ะเป็นเรื่องดีเยี่ยมอยู่แล้ว
แต่หากต้องปล่อยให้ ‘ทีมน้อง’ ไปเผชิญโชคเอาเอง...ตามยถากรรม
มันคงจะเป็นอะไร...ที่แปลกพิกล!!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com