ไทยรัฐออนไลน์
ซูซูกิผิดอะไร เผยอีก 2 จุดอ่อน "ญี่ปุ่น" สาเหตุสำคัญที่ทำให้แพ้ "อิหร่าน" ตกรอบ 8 ทีม เอเชียนคัพ 2023
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ควันหลงฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งทีมชาติญี่ปุ่น เบอร์ 1 เอเชีย อันดับ 17 ของโลก ดีกรีแชมป์สูงสุด 4 สมัย จบเส้นทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากโดนทีเด็ดของ ทีมชาติอิหร่าน เบอร์ 2 เอเชีย อันดับ 21 ของโลก อดีตแชมป์ 3 สมัย ยิงแซงในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+6 จากจุดโทษ เฉือนเอาชนะไป 2-1
หลังจบเกมมีการเปิดเผยสถิติที่น่าสนใจของ ทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็น 1 ในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องแพ้ อิหร่าน ตกรอบ 8 ทีม ศึกเอเชียนคัพ 2023 โดยเกมนี้ "ซามูไรบลู" มีโอกาสยิงตรงกรอบแค่ 2 ครั้ง เมื่อคิดค่าเฉลี่ยทั้ง 5 นัดในการแข่งขันครั้งนี้ (รอบแบ่งกลุ่ม 3 รอบน็อกเอาต์ 2) ญี่ปุ่น ยิงตรงกรอบแค่เกมละ 3.6 ครั้ง หรือยิงเข้ากรอบทั้งหมด 18 ครั้ง รวมทั้ง 5 เกม ถือเป็นสถิติที่แย่ที่สุดใน 1 ทัวร์นาเมนต์ของพวกเขา นับตั้งแต่เอเชียนคัพ 2007
นอกจากนี้ อีก 1 สาเหตุที่ทำให้ ญี่ปุ่น ต้องแพ้ อิหร่าน ในเกมนี้ คือความผิดพลาดในเกมรับ ซึ่งก่อนหน้านี้ ไซออน ซูซูกิ ผู้รักษาประตูมือ 1 มักจะถูกเพ่งเล็งเป็นอันดับแรกจากการป้องกันประตูใน 4 เกมที่ผ่านมา แต่นัดล่าสุด "ซามูไรบลู" เสีย 2 ประตูจากการสื่อสารผิดพลาดของคู่เซ็นเตอร์อย่าง โค อิตาคุระ กับ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ
สำหรับประตูตีเสมอ 1-1 ของ อิหร่าน ในนาทีที่ 55 โทมิยาสุ ขยับขึ้นมาประชิดตัว ซาร์ดาร์ อัซมูน แต่ อิตาคุระ กลับวิ่งถอยไปรอดักจังหวะจ่ายทะลุช่อง สุดท้ายก็ปล่อยให้ โมฮัมหมัด โมเฮบี วิ่งอ้อมหลังแล้วโฉบตัดหน้าเข้าไปยิงเสียบมุม
ส่วนประตูแซงนำ 2-1 ในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+6 อิตาคุระ กับ โทมิยาสุ ก็ไม่ได้ให้เสียงกันดีๆ ในจังหวะที่ อิหร่าน โหม่งตั้งเข้ามา ก่อนที่ทั้งคู่จะชนกันเอง และเป็น อิตาคุระ ที่ต้องทำฟาวล์ ฮอสเซน กานานี จนเสียจุดโทษ สุดท้าย อาลีเรซา ยาฮานบาคช์ สังหารเข้าไปไม่พลาด ดับฝัน ญี่ปุ่น ในการลุ้นแชมป์สมัยที่ 5 ไปโดยปริยาย
ขณะที่ ไซออน ซูซูกิ ซึ่งโดนจับผิดมาตลอด เกมนี้กลับแทบไม่ก่อความผิดพลาดให้เห็น และยังเซฟได้อีก 2 ครั้ง จากโอกาสยิงตรงกรอบของ อิหร่าน ทั้งหมด 4 ครั้งในเกมนี้ จึงสรุปได้ว่า 2 สาเหตุที่ทำให้ ญี่ปุ่น แพ้ในเกมนี้คือ เกมรุกขาดประสิทธิภาพ และเกมรับก็ยังผิดพลาดกันเองอีกด้วย.