โจโจ้
26 ขุนพลช้างศึก “ฟุตบอลทีมชาติไทย” เหยียบแผ่นดินกาตาร์เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมทำภารกิจสำคัญ “เอเชียนคัพ 2023” รอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 10 ม.ค.-12ก.พ.
ภาพรวมของนักเตะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นนักเตะชุดใหญ่ แม้บางคนจะมีอาการบาดเจ็บบ้างหรือถอนตัว แต่ก็นับว่ามีหวัง
แม้เป้าหมายที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย รวมถึง “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือใหญ่ชาวญี่ปุ่น วางไว้คือรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะว่าไปแล้วไม่ง่ายและไม่ยากจนเกินไป
ขอเพียงนัดแรกที่จะเปิดสนามกับ “คีร์กีซสถาน” ในวันที่ 16 ม.ค. คว้าชัยชนะมาได้ โอกาสที่จะก้าวไปถึงเป้าหมายไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
เสียดายที่การเลือกประมุขบอลไทยช้าไปนิดจริงอยู่แม้หลายคนบอกว่าค่อนข้างแบเบอร์ก็ตาม แต่ถ้าการเลือกตั้งได้คณะกรรมการชุดใหม่อย่างเป็นทางการน่าจะส่งผลดีต่ออะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องขวัญกำลังใจเชื่อว่าน่าจะดีกว่านี้
จริงอยู่ผู้จัดการสาวสวย “มาดามแป้ง” เป็นตัวเต็งที่จะนั่งเก้าอี้นายกสมาคมฯ และคอยเติมเต็มนักเตะอยู่ตลอด แต่สถานะต่างกัน คำว่า “ผู้จัดการทีมกับนายก” ความหมายคนละอย่าง การทำอะไรน่าจะเป็นระบบและเต็มที่มากกว่านี้
ไม่เป็นไรขอเพียงวันนี้นักเตะทุกคน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ โอกาสหรือเป้าหมายคงไม่ไกลเกินเอื้อม
ที่น่าดีใจสุดๆ เรื่องที่แฟนคลับทุกคนร้องหา “การได้ชมเชียร์ช้างศึก” ลงทำหน้าที่สมหวังแล้ว เมื่อ “พีพีทีวี ช่อง 36” เตรียมยิงสดในรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 3 นัดให้ชมอย่างเต็มอิ่ม รวมถึงนัดชิงชนะเลิศอีก 1 นัด
เหนือสิ่งอื่นใดฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้การ
ถ่ายทอดสดครั้งนี้เกิดขึ้นไม่พ้น “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มีกีฬาในหัวใจ ที่เป็นคนประสานงานจนทำให้กองเชียร์ไทยได้เชียร์ช้างศึกในแมตช์สำคัญครั้งนี้
ส่วนจะมีใครเป็นพันธมิตรกับทางพีพีทีวีหรือไม่คงต้องรอ “นายกฯเศรษฐา” ออกมาแถลงไขอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
วันนี้ด่านแรกที่ทุกคนกังวล “การเชียร์ช้างศึก” สมหวังดั่งใจแล้ว จากนี้ก็ได้แต่ลุ้นให้เป้าหมายที่วางไว้สัมฤทธิผล แค่นี้ก็สุขใจแล้วสำหรับแฟนกีฬาชาวไทย
ย้ำกันอีกรอบกันลืมสำหรับโปรแกรมช้างศึกนัดแรก 16 ม.ค.เปิดสนามกับคีร์กีซสถาน เวลา 21.30 น. ต่อด้วย 21 ม.ค.กับโอมาน เวลา21.30น. ปิดท้าย 25 ม.ค. กับซาอุดีอาระเบีย เวลา22.00น.
โจโจ้