ไทยรัฐออนไลน์
เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ เผย 3 ความแตกต่างระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ญี่ปุ่น หลังแพ้ขาดลอยประเดิมนัดแรก อิชิอิ
วันที่ 1 มกราคม 2567 ฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดพิเศษ ต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ ทีมชาติญี่ปุ่น เบอร์ 1 ของเอเชีย และอันดับ 17 ของโลก เปิดสนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น เอาชนะ ทีมชาติไทย อันดับ 21 ของเอเชีย และอันดับ 113 ของโลก ซึ่งประเดิมการคุมทีมนัดแรกของ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ชาวญี่ปุ่น ไปแบบท่วมท้น 5-0
ครึ่งแรก "ช้างศึก" ยังต้านทานเกมรุกของ "ซามูไรบลู" ที่บุกกระหน่ำตั้งแต่ต้นเอาไว้ได้ ก่อนที่ ทีมชาติไทย จะต้านไม่ไหว โดน ญี่ปุ่น อาศัยความเด็ดขาดที่เหนือกว่า ไล่ทะลวงประตูชนะขาดลอยในช่วงท้ายเกม จาก อาโอะ ทานากะ นาทีที่ 50, เคโตะ นากามุระ นาทีที่ 72, เอเลียส ดอเลาะ ทำเข้าประตูตัวเอง นาทีที่ 74, ทาคุมุ คาวามุระ นาทีที่ 82 และ ทาคุมิ มินามิโนะ ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+1
หลังจบเกม เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ 1 ในผู้เล่นทีมชาติไทยที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เลือกส่งลงสนามเป็น 11 ตัวจริง กล่าวถึงการแพ้ ทีมชาติญี่ปุ่น ในเกมนี้ว่า "ดีใจครับที่วันนี้พวกเราได้ทำเต็มที่ แล้วก็ดีใจที่ได้เห็นแฟนบอลเต็มสนาม 60,000 กว่าคน พวกเราก็ได้ทำเต็มที่แล้วแหละ เพราะเราก็รู้ดีว่า ทีมชาติญี่ปุ่น ก้าวไปเป็นทีมระดับโลกแล้ว"
"ก็ดีใจที่วันนี้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ แล้วก็ต่อสู้กับ ญี่ปุ่น ได้อย่างสนุกครับ แน่นอนครับว่าวันนี้เราได้เห็น ญี่ปุ่น ทั้งเรื่องการจ่ายบอล การพลิกบอล การทำเกม ซึ่งพวกเขามีรูปแบบที่ชัดเจนมาก จริงๆ เราก็น่าจะมีเวลามากกว่านี้ ถ้าโค้ชอิชิอิได้คุมทีมมากกว่านี้ จริงๆ มันก็เป็นการเตรียมตัวที่กะทันหัน แล้วเราก็มาเก็บตัวกันไม่ครบทีมด้วย"
"แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างอยู่แล้ว เราก็ต้องกลับไปแล้วก็ทำงานหนัก เพื่อเตรียมตัวสำหรับศึกเอเชียนคัพ ครับผม"
หลังจากนี้ทั้ง 2 ทีมจะมีโปรแกรมลุยศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 12 มกราคม - 10 กุมภาพันธ์นี้ โดย ทีมชาติไทย อยู่กลุ่มเอฟ ร่วมกับ คีร์กีซสถาน, โอมาน และ ซาอุดีอาระเบีย ส่วน ทีมชาติญี่ปุ่น อยู่กลุ่มซี ร่วมกับ อินโดนีเซีย, อิรัก และ เวียดนาม