ไทยรัฐออนไลน์
อำลา “ป๋าลอ & เอล เทล”
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาวงการลูกหนังทั้งไทยและเทศ ต้องพบกับข่าวเศร้าในห้วงเวลาไล่เลี่ยกัน
เริ่มที่บ้านเรากับการปิดตำนานของ “ป๋าลอ” พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนดัง
ผู้สร้างประวัติศาสตร์พาทีมชาติไทย คว้าอันดับ 4 เอเชียนเกมส์สมัยแรก ที่ปักกิ่ง เมื่อปี 1990 หรือเมื่อ 36 ปีแล้ว
โดยเป็นผู้อิมพอร์ตโค้ชชาวบราซิล “คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ” มากุมบังเหียนทีมชาติไทย จนโด่งดังเป็นพลุแตก
น่าเสียดายที่ผมเข้ามาเป็นนักข่าวกราวกีฬาไทยรัฐ ไม่ทันยุคที่ “ป๋าลอ” รุ่งเรืองสุดขีด
ได้แต่ฟังเรื่องราวของแกผ่านการเล่าขานของพี่ๆ สื่อมวลชนรุ่นเก๋า
ไม่ว่าจะเป็น “จังซีลอน” หรือ “บิ๊กเหม็น” ไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาคนปัจจุบัน
“พี่บ๊อบ” ทรงธรรม โกศัยเนตร หนึ่งในสมาชิกสี่สิงห์แดนลูกหนังยุคบุกเบิก
รวมทั้ง “พี่ป๊อก” พงษ์ ระวี อดีตคอลัมนิสต์ตะลุยฟุตบอลโลกของหน้ากีฬาไทยรัฐผู้ล่วงลับ
เรื่องราวอื่นๆ ในชีวิตของ “ป๋าลอ” จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาแบบไหน อย่างไร ผมไม่ทราบหรอก
รู้แต่ว่าทุกคนในวงการฟุตบอลเมืองไทย ทั้งที่บิ๊กและไม่บิ๊ก ที่เคยใกล้ชิดและสัมผัสตัวตนของแก
ต่างรักและเคารพป๋าด้วยหัวใจอันแท้จริงกันทั้งนั้น...
เอาเป็นว่า...ผมไม่เคยได้ยินเรื่องไม่ดีของคนชื่อ “ชลอ เกิดเทศ” หลุดออกมาจากปากพี่พวกนี้เลยก็แล้วกัน!
ซึ่งพิธีสวดพระอภิธรรมของ “ป๋าลอ” จะมีขึ้นในเวลา ทุ่มตรง จนถึงวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ที่วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
จากนั้นวันเสาร์ที่ 2 ธ.ค. จะทำการฌาปนกิจ ในเวลา 10.00 น. โดยประมาณ
ก็ขอเรียนเชิญพวกเราคนลูกหนังทั้งหลาย
ไปร่วมกันส่งอดีตประมุขลูกหนังอันเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้าย ตามวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียง
ฟุตบอลไทยสูญเสีย “ป๋าลอ” ไปได้ไม่กี่วัน
วงการลูกหนังเมืองผู้ดีก็ต้องมาเสียบุคลากรสำคัญไปอีกคน
กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ “เอล เทล” เทอร์รี เวนาเบิลส์
อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ ผู้โด่งดัง และเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลกมากที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์
โดยเฉพาะการพาพลพรรคสิงโตคำราม ทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกบอลยูโร 1996 ในบ้านตัวเอง
ก่อนจะอกหักในรอบรองฯ ด้วยการพ่ายดวลจุดโทษต่อทีมชาติเยอรมัน...อย่างน่าเสียดายที่สุด!
ซึ่งทีมชาติอังกฤษชุดนั้น ถือเป็นชุดที่แข็งแกร่งที่สุดอีกทีมนึงเลยทีเดียว
เพราะอุดมไปด้วยดาวเตะซุปเปอร์สตาร์ ทั้ง “แกซซ่า” พอล แกสคอยจ์, “ฮอตชอต” อลัน เชียร์เรอร์, เท็ดดี้ เชอริงแฮม, แกเรธ เซาธ์เกต, สจ๊วต เพียร์ช, โทนี อดัมส์ ฯลฯ
โดยก่อนหน้านั้น เวนาเบิลส์ สร้างชื่อกระฉ่อนจากการสวมบทผู้จัดการทีม บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน, โกปา เดล เรย์ และผ่านเข้าชิงยูโรเปี้ยน คัพ
รวมทั้งยังเคยพา “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ ในฤดูกาล 1990/91 อีกต่างหาก
ผมโชคดีที่ครั้งนึงในชีวิตได้เคยมีโอกาสสัมผัสกับ “มิสเตอร์ทีวี” อย่างใกล้ชิด แบบตัวเป็นๆ
เมื่อครั้งทำหน้าที่ไปเกาะติดรายงานข่าวทีมชาติไทย บินไปฝึกซ้อมอุ่นเครื่องเตรียมคัดบอลโลกที่ประเทศอังกฤษ เมื่อกว่า 20 ปีมาแล้ว
โดยได้เจอกับ เวนาเบิลส์ ที่สนามซ้อมของมิดเดิลสโบรช์โดยบังเอิญ
หลังเจ้าตัวมาซุ่มดูฟอร์มของนักเตะโบโร่เพื่อเรียกตัวไปติดทีมชาติ
“เอล เทล” ตัวจริง เป็นคนสุภาพ น่ารัก ยิ้มง่าย ไม่เรื่องมาก
ผมได้ถ่ายรูปขอลายเซ็น และสนทนากับเขานิดหน่อย
จำได้ว่าขอคำแนะนำเรื่อง “บอลไทยจะไปบอลโลก” ซึ่งเจ้าตัวอวยพรให้ฝันเป็นจริง
ก่อนจากกันวันนั้น “ทีวี” กระซิบบอกผมว่า แฮปปี้ที่ได้คุยกับนักข่าวไทย
แต่ถ้าจะให้ดีทีหลังอย่าใส่เสื้อตัวนี้มาสัมภาษณ์เขาจะดีกว่า...
ว่าแล้วก็ตบไหล่ยักคิ้วให้อย่างอารมณ์ดี...ก่อนจากไป
ผมสะดุ้งโหยงเหลือบไปดูตัวเอง...
เลยเพิ่งนึกว่าเสื้อย้อนยุคตราอินทรีเหล็ก...ที่ใส่มาในวันนั้น
มันช่างสะดุดตา โค้ชเวนาเบิลส์ เข้าอย่างจัง
RIP. ซอรี่ และขอโทษอีกครั้งครับ...เอล เทล!!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com