บี บางปะกง
โดนเปิดซิงพ่ายแพ้เป็นนัดแรกเสียแล้ว สำหรับขุนพลช้างศึก ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของกุนซือฝรั่งหัวใจไทย “มาโน โพลกิง” ที่ตั้งแต่เข้ามารับงานให้ทีมชาติไทย ของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
แข้งช้างศึกชุดใหญ่ของเราสร้างสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันมาแล้ว 10 นัด เพิ่งมาเสียสถิติปราชัยเป็นเกมแรกในนัดที่ 11 ให้กับทีมชาติบาห์เรน อย่างน่าเสียดาย ในเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ที่เพิ่งผ่านมา
ที่ต้องบอกว่าน่าเสียดาย เพราะเกมนี้เราเริ่มต้นได้อย่างเร้าใจเหลือเกิน โดยได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่ น.3 จากการสังหารจุดโทษของ “กัปตันมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และมีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มอีกหลายครั้งแต่พลาดในจังหวะสุดท้ายกันไปหมด
จนมาโดนบาห์เรน ที่บุกขึ้นมาแค่ครั้งเดียวในครึ่งแรกตีเสมอหน้าตาเฉย ก่อนที่ครึ่งหลังพลพรรคช้างศึกจะฟอร์มดร็อปไปดื้อๆ กลายเป็นโดนแข้งตะวันออกกลางบุกขึ้นมาโจมตีอย่างน่ากลัว
และในที่สุดพวกเขาก็มายิงประตูชัยเผาเครื่องทีมไทยจนได้ในช่วงทดเจ็บ
นับเป็นบทเรียนให้ทีมชาติไทยได้ระลึก เสมอว่าถ้าเราต้องขึ้นไปในระดับเอเชียแล้วล่ะก็ไม่มี ทีมไหนที่เคี้ยวกรุบเหมือนในอาเซียนที่คุ้นเคยอีกต่อไป
ดังนั้นเวลาที่เหลืออีกราว 1 สัปดาห์ก่อนจะเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์เอเชียนคัพ รอบคัดเลือก ที่อุซ เบกิสถาน กุนซือมาโนคงต้องเร่งทำการบ้านให้ลูกทีมชาติไทยพร้อมรบจริงๆ
สำหรับการพะบู๊กับคู่แข่งจากเอเชียใต้ทั้ง มัลดีฟส์ ในวันที่ 8 มิ.ย. ศรีลังกา ในวันที่ 11 มิ.ย. และปิดท้ายกับเจ้าภาพ อุซเบฯ ในวันที่ 14 มิ.ย.
ซึ่งทุกเกม ไทยรัฐทีวี HD ช่อง 32 และ AIS PLAY จะถ่ายทอดสดมาให้ลุ้นเชียร์กันถึงหัวกระไดบ้านเหมือนเดิม
แต่ก่อนหน้านั้นแฟนลูกหนังบ้านเรา คงต้องส่งกำลังใจล่วงหน้าไปลุ้น ทีมช้างศึกพลังหนุ่ม ยู–23 ที่กรุงทาชเคนต์ กันก่อน กับภารกิจลุย รอบสุดท้าย ศึกลูกหนังชิงแชมป์เอเชีย 2022 ที่จะเริ่มเปิดฉากกันแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โดยแข้งยังเติร์กทีมชาติไทย ที่ว่ากันว่าสมบูรณ์แบบที่สุดแทบทุกขุมกำลังตั้งแต่หลังยันหน้า
ทั้งทีมอุดมไปด้วยผู้เล่นหัวกะทิในลีกไทย และนักเตะลูกครึ่งที่อิมพอร์ตจากต่างแดนโดยตรงมารวมตัวกันเพื่อชาติอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
เรียกว่าวัตถุดิบระดับพรีเมียมหายห่วงซะขนาดนี้แล้ว ก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นเชฟใหญ่อย่าง “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ แล้วล่ะครับ ว่าจะปรุงอาหารจานนี้ออกมาได้เด็ดดวงสักขนาดไหน
ฉายาเก่าๆที่เจ้าตัวเคยได้รับการขนานนามว่าเป็น “มือปราบอาเซียน” ที่พาบอลไทยเป็นแชมป์ซีเกมส์หนสุดท้ายเมื่อปี 2017 จะยังคงเข้มขลังต่อไปหรือเปล่า?
แค่เกมเปิดหัวกับ เวียดนาม คู่ปรับตลอดกาลที่ฝากรอยแค้นเอาไว้ในซีเกมส์ที่ฮานอย ในค่ำคืนวันนี้ ก็น่าจะพอมองเห็นแล้วว่าอนาคตของทีมช้างศึกชุดนี้จะเป็นอย่างไร...ต่อไป
โดยโปรแกรมของแข้งช้างศึก ยู-23 หลังประเดิมสนามกับนักเตะเหงียนไปแล้ว วันอาทิตย์ที่ 5 มิ.ย.ก็จะเจอกับเสือเหลือง มาเลเซีย เพื่อนร่วมอาเซียน ในเวลา 22.00 น.
ก่อนจะปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม กับแข้งพลัง เกาหลีใต้ “แชมป์เก่า” ในวันพุธที่ 8 มิ.ย. เวลาสองทุ่มตรงต่อไป
เสียดายศึกใหญ่ระดับชิงแชมป์ทวีปอย่างนี้ ไม่ยักกะมี “ฟรีทีวี” ช่องไหนถ่ายทอดสด มาให้เราดู
นี่ยังดีที่มีช่องทางรับชมทางแอปพลิเคชัน Eleven Sports ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รายการนี้ในเมืองไทย ให้ติดตามกันได้บ้าง
แม้ไม่ค่อยคุ้นชินนักสำหรับแฟนบอลบ้านๆ อย่างผม
แต่ก็ต้องขอบคุณเค้าที่อุตส่าห์ถ่ายบอลดีๆที่คนไทยอยากดูที่สุด ณ เวลานี้...
มาให้พวกเราได้เชียร์กัน!!!
บี บางปะกง