หน้าแรกแกลเลอรี่

ตัวอย่าง “คนรวยช่วยชาติ” “มาดามแป้ง” กับ “บอลไทย”

ซูม

5 ม.ค. 2565 06:58 น.

เมื่อก่อนจะสิ้นปีเก่า 2564 สัก 3-4 วัน เห็นจะได้ ผมเขียนถึงความสำเร็จของกลุ่ม “เซ็นทรัล” ที่ไปซื้อหุ้นห้างดังของอังกฤษ “เซลฟริดเจส” ด้วยความชื่นชมอย่างยิ่ง

พร้อมกับฝากผู้หลักผู้ใหญ่ของเซ็นทรัล ที่ช่วงหลังๆไปเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ามากมายในต่างประเทศให้ช่วยดูแลประเทศไทยของเราด้วย

ช่วยขายสินค้าจากประเทศไทยบ้าง ช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนในประเทศที่ห้างเซ็นทรัลไปตั้งอยู่ที่นั่นมาเที่ยวเมืองไทยเยอะๆบ้าง

เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณ “แผ่นดินไทย” ที่ต้นตระกูลของห้างเซ็นทรัลได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารจนประสบความเจริญรุ่งเรือง เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีตราบเท่าทุกวันนี้

ขณะเดียวกัน ผมก็เรียนท่านผู้อ่านไว้ด้วยว่า ปี 2565 จะเป็นปีที่ผมจะเขียนเชิญชวนให้ท่านมหาเศรษฐีทั้งหลายตอบแทนพระคุณแผ่นดินไทยให้มากขึ้นไปอีก

เพราะผมค่อนข้างห่วงมาก จากการระบาดแบบซ้ำซากโดยไม่หยุดหย่อนของโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจไทยทรุดต่อไป

จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายในประเทศของเรา ไม่ว่าภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน หรือองค์กรประชาชนต่างๆ จะต้องร่วมมือกันในการกอบกู้เศรษฐกิจของเราคนละมือคนละไม้

โดยเฉพาะภาคเอกชน...เน้นไปที่บริษัทใหญ่ๆ เจ้าของร่ำรวยมากๆ...และพิสูจน์ได้ชัดเจนว่ารวย เพราะแผ่นดินไทยให้แบ่งปันความรวยของท่านมาช่วยเหลือประเทศชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

หลังจากฝากกลุ่มเซ็นทรัลเอาไว้แล้วก็พอดีเมื่อวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่าน ทีมฟุตบอล “ทีมชาติไทย” หรือ “ทีมช้างศึก” ของเราก็ไปคว้าแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ” ปี 2020 ที่เลื่อนมาแข่งในปี 2021...มาฝากคนไทยได้สำเร็จ

ผมเองก็เคยเขียนถึง พร้อมทั้งยกตำแหน่ง “ผู้หญิงแห่งปี” ให้แก่ “มาดามแป้ง” คุณ นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ผ่านคอลัมน์นี้ไปแล้วด้วยซ้ำ

วันนี้ที่กลับมาเขียนถึงเธออีกครั้ง ก็เพราะได้อ่านภาพและข่าวของหนังสือพิมพ์ “สเตรทส์ไทมส์” แห่งสิงคโปร์ ซึ่งลงภาพเธอกำลังเล่นสนุกกับนักเตะไทยเพื่อสร้างแรงจูงใจด้วยการจับสลากแจกของขวัญ (เล็กๆน้อยๆ) หลังการฝึกซ้อม

เขาเขียนคำบรรยายภาพไว้ว่า Suzukicup: Rolex watches, iphones, designer bags...how Thailand billionaire team manager motivates her players.

แปลความได้ว่า...“นาฬิกาโรเล็กซ์, โทรศัพท์ไอโฟน, กระเป๋าแบรนด์เนม...นี่คือวิธีการที่ผู้จัดการทีม “มหาเศรษฐี” ของทีมชาติไทยใช้เป็นแรงจูงใจแก่นักเตะของเธอในฟุตบอลซูซูกิคัพ”

ผมอ่านรายงานข่าวชิ้นนี้แล้ว ก็ถือว่าการควักเงินส่วนตัวของเธอออกมาซื้อของแจกก็ดี มาเหมาเครื่องบินกลับบ้านก็ดี ร่วมสมทบทุนอัดฉีดก็ดี น่าจะถือว่าเป็นการตอบแทนพระคุณแผ่นดินได้อย่างหนึ่ง

เพราะเธอนำมาใช้สร้างขวัญสร้างกำลังใจให้แก่นักกีฬาไทยเพื่อให้เล่นเก่ง เล่นดี มีความพยายาม จนสามารถคว้าชัยชนะนำความสุขใจมาสู่คนไทยของเราได้ในที่สุด

ที่สำคัญนี่ไม่ใช่ครั้งแรกเพราะที่แล้วมาเธอก็ลงมาทุ่มเท จนนำทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย หรือ “ชบาแก้ว” ของเราไปเล่นฟุตบอลโลกหญิงมาถึง 2 ครั้ง 2 หน

การตอบแทนพระคุณแผ่นดินทำได้หลายแบบครับ การลงทุนขยายกิจการทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นก็ได้...การไปช่วยขายสินค้าไทยในต่างแดนอย่างเซ็นทรัลก็ใช่ หรือแม้แต่การประชาสงเคราะห์แจกข้าวปลาอาหารให้แก่คนยากไร้ก็ใช่อีก

หรืออย่างที่ท่าน ผอ.กำพล วัชรพล ของไทยรัฐ รวยแล้วเอาเงินไปช่วยทำนุบำรุงการศึกษาในชนบทด้วยการตั้งโรงเรียนไทยรัฐวิทยาต่างๆ...นั่นก็ใช่เช่นกัน

ดังนั้น การสร้างความสุขแก่คนไทยด้านกีฬาของมาดามแป้งที่ช่วยมาตลอด ไม่ใช่เพิ่งจะมาช่วยเดี๋ยวนี้ จึงถือว่า “ใช่” โดยถ่องแท้

ขอขอบคุณมาดามแป้งอีกครั้งสำหรับการช่วยสร้างความสุขให้แก่คนไทย ผ่านฟุตบอลไทยทั้งในอดีต ปัจจุบัน และยังไงๆก็ฝากต่อไปสู่อนาคตข้างหน้าด้วยนะครับ มาดาม.

“ซูม”