ไทยรัฐออนไลน์
ไทยรัฐสปอร์ต รวบรวมรายชื่อ "คนกีฬาขวัญใจมหาชน" ทั้ง 8 คนที่สร้างความประทับใจให้แฟนๆ ชาวไทยในแบบของตนเองตลอดปี 2564 ที่เพิ่งผ่านไป
1. "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ (ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย)
นี่คือ "นารีขี่ม้าขาว" อย่างแท้จริง หลังจากฟุตบอลทีมชาติไทยกำลังจะก้าวถอยหลังสู่ช่วงวิกฤติ จากการไม่ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 12 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เมื่อเดือนมิถุนายน ด้วยการไม่ชนะคู่แข่งระดับอาเซียนทั้ง 2 ทีม (เสมอ อินโดนีเซีย 2-2 และ แพ้ มาเลเซีย 0-1) เป็นใครก็คงคิดหนักหากจะเข้ามารับภารกิจกอบกู้ศรัทธาลูกหนังไทยที่เสี่ยงต่อการเอาชื่อไปทิ้ง
แต่ "มาดามแป้ง" ก็ยังหาญกล้าพาตัวเองโดดเข้ากองไฟด้วยการเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ทั้งชุดใหญ่ และชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ซึ่งหญิงแกร่งรายนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอใส่ใจและเต็มที่กับทุกรายละเอียดนอกสนามที่จะช่วยส่งเสริมให้ทีมมีผลงานที่ดีในสนาม
ผลลัพธ์จากการมี "มาดามแป้ง" คอยสนับสนุนทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า ทำให้ทีมชาติไทยบรรลุเป้าหมายทั้ง 2 ชุด โดยทัพช้างศึกรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คว้าตั๋วจากรอบคัดเลือกที่มองโกเลีย ได้ไปเล่นในศึกยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ในเดือนมิถุนายนนี้
ส่วนชุดใหญ่ก็กลับมาผงาดในฐานะเจ้าอาเซียนสมัยที่ 6 จากการคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 แบบไร้พ่าย ยิงกระจุยกระจายถึง 18 ประตู เสียเพียง 3 ลูกตลอดทัวร์นาเมนต์ที่สิงคโปร์
2. ชนาธิป สรงกระสินธ์ (นักฟุตบอลทีมชาติไทย)
"เมสซีเจ" ชดเชยช่วงเวลาที่ห่างหายไปจากสารบบทีมชาติไทยเป็นเวลานานกว่า 2 ปี เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่เป็นใจ ด้วยการรับหน้าที่กัปตันทีมชาติไทยคนใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้ก่อนเริ่มการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2020 ที่สิงคโปร์ หลายคนจะยังสงสัยว่าเขาเหมาะกับปลอกแขนอันทรงเกียรตินี้มากแค่ไหน
แต่ "กัปตันเจ" ก็ใช้ฝีเท้าและมาตรฐานการเล่นจากศึกเจลีก ญี่ปุ่น ลีกที่ดีที่สุดในเอเชีย ทดแทนเรื่องภาวะผู้นำได้อย่างแนบเนียน บวกกับอุปนิสัยส่วนตัวที่เพื่อนร่วมทีมเข้าถึงง่ายจึงได้รับการยอมรับและเป็นหัวใจสำคัญของทัพ "ช้างศึก" ในการคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020
ไม่เพียงเท่านั้น ชนาธิป ยังได้แชมป์พร้อมรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นสมัยที่ 3 แล้วที่เขาเหมา 2 รางวัลต่อจากปี 2014 และ 2016 แต่หนนี้เขาทำได้เหนือกว่าเดิมด้วยการควบตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดร่วมกับ ธีรศิลป์ แดงดา รุ่นพี่ในทีมชุดเดียวกัน, ซาฟาวี ราซิด (มาเลเซีย) และ เบียนเวนิโด มารันยอน (ฟิลิปปินส์) จากผลงานยิงคนละ 4 ประตูอีกด้วย
3. อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา (ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้)
หลังจาก "จิ้งจอกสยาม" ต้องสูญเสียคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปี 2018 ลูกชายอย่าง "บิ๊กต๊อบ" ก็เข้ามาสานงานประธานสโมสรได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้แฟนบอลท้องถิ่นยังรักและเคารพตระกูลศรีวัฒนประภาเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันไม่เสื่อมคลาย
ไม่เพียงเท่านั้น เลสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ยังสามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษและของโลก "เอฟเอ คัพ" ได้เป็นครั้งแรกของสโมสรในเดือนพฤษภาคม หลังจากได้เพียงรองแชมป์มา 4 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายที่เข้ารอบชิงชนะเลิศต้องย้อนไปถึงปี 1969 หรือ 52 ปีที่แล้ว
แต่ภาพที่ประทับใจยิ่งกว่าการชูถ้วยแชมป์ คือ แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีม ได้วิ่งขึ้นไปเชิญประธานสโมสรชาวไทยที่นั่งชมลูกทีมบนอัฒจันทร์ ให้ลงมาฉลองแชมป์ด้วยกันในสนาม สิ่งนี้บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า "คุณต๊อบ" เป็นที่รักของทุกคนในทีมเลสเตอร์ ซิตี้ มากแค่ไหน ก่อนที่ "จิ้งจอกสยาม" จะปราบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าโล่คอมมูนิตี ชิลด์ มาครองได้อีกในเดือนสิงหาคม ก่อนเปิดฤดูกาล 2021/22
4. พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย)
ลูกเตะช่วง 7 วินาทีสุดท้ายที่ช่วยพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ อาเดรียนา เซเรโซ อิเกลเซียส ดาวรุ่งชาวสเปนได้อย่างเหลือเชื่อ ทำให้ "น้องเทนนิส" ได้ใจคนไทยและแฟนกีฬาทั่วโลกในฐานะนักสู้ผู้ไม่เคยยอมแพ้ ก่อนคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 มาคล้องคอได้อย่างยิ่งใหญ่ และยังช่วยเติมเต็มให้เธอคว้าทุกแชมป์บนโลกใบนี้เป็นที่เรียบร้อย
ความสำเร็จดังกล่าวทำให้ พาณิภัค ซึ่งยังคงครองบัลลังก์นักเทควันโดหมายเลข 1 ของโลกในรุ่น 49 กิโลกรัม หญิง มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นมากมาย และมีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมเพิ่มขึ้นเป็น 244,000 กว่าคนในเวลานี้
5. เช ยอง ซอก (หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย)
เหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ของเทควันโดไทยจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจาก "โค้ชเช" ที่เข้ามาสร้างรากฐานการพัฒนาจอมเตะไทยตั้งแต่ปี 2002 และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในโตเกียวเกมส์ 2020 รวมถึงนักกีฬาคนอื่นๆ ที่สามารถต่อกรกับคู่แข่งทั่วโลกได้อย่างไม่อายใคร
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้รายนี้ควรได้รับการตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อมากกว่านี้ หลังจากที่กระบวนการขอสัญชาติไทยเพื่อเป็นคนไทยเต็มตัวตามที่เจ้าตัวต้องการยังไม่เสร็จเรียบร้อย แม้ว่าจะยื่นเรื่องไปตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2564 หลังจากได้ชื่อไทยอย่างเป็นทางการว่า "ชัชชัย เช" (ชัชชัย ชเว) มาแล้ว
6. "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ - "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (นักแบดมินตันทีมชาติไทย ประเภทคู่ผสม)
หลังจากวงการแบดมินตันไทยผ่านพ้นยุคของ สุดเขต ประภากมล และ สราลีย์ ทุ่งทองคำ ในประเภทคู่ผสม ก็มี "บาส-ปอป้อ" ก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนได้อย่างเต็มภาคภูมิ และทั้งคู่ก็ก้าวไปไกลยิ่งกว่าในเวทีโลก เมื่อระเบิดฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิต กวาดแชมป์ไปถึง 8 รายการใหญ่ แบ่งเป็น 3 แชมป์ติดต่อกันใน 3 สัปดาห์ของเดือนมกราคม และอีก 5 แชมป์ติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม จนก้าวขึ้นมาเป็นคู่ผสมมือ 1 ของโลกคู่แรกของไทย
ด้วยผลงานเช่นนี้ทำให้แฟนกีฬาชาวไทยดูการแข่งขันแบดมินตันอย่างสนุกและมีความสุขมากขึ้นในปี 2022 และคาดหวังว่าทั้งคู่น่าจะทำผลงานให้ชื่นใจได้อีกหลายรายการ
7. ซุปเปอร์บอน (นักกีฬาต่อสู้ MMA)
ยอดนักสู้คิกบ็อกซิ่งแถวหน้าของเมืองไทยรายนี้ ถือเป็นนักกีฬา ONE ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งประจำปี 2564 โดยขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต รวมทั้งขึ้นแท่นคิกบ็อกเซอร์เบอร์ 1 ของโลก แทนที่เจ้าตำนานชาวอิตาลี "จอร์จิโอ เปโตรเซียน" ที่เขาโค่นล้มได้จากการเตะก้านคอจนลงไปนอนแน่นิ่ง กลายเป็นชอตเด็ดที่ติดตาตรึงใจแฟนกีฬาต่อสู้ทั่วโลกในรอบปีที่ผ่านมา
ความยอดเยี่ยมดังกล่าวส่งให้เขาได้รับรางวัล "นักกีฬายอดเยี่ยม วัน ซุปเปอร์ ซีรีส์ (มวยไทย/คิกบ็อกซิ่ง)" และ "น็อกเอาต์ยอดเยี่ยม" ประจำปี 2564 ของ ONE ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี ก่อนได้รับโอกาสเพิ่มฐานแฟนคลับด้วยการไปเผยแพร่วิชามวยไทยในสหรัฐอเมริกา
8. ลิโอเนล เมสซี (นักฟุตบอล)
คนสุดท้ายขอข้ามฟากไปที่นักกีฬาต่างประเทศสักหน่อย ซึ่งยอดดาวเตะซ้ายฟ้าสั่งสามารถหลุดพ้นคำสาป "ราชาไร้บัลลังก์" ในการเล่นทีมชาติอาร์เจนตินาชุดใหญ่ได้แล้ว เมื่อปลดล็อกแชมป์แรกของตัวเองกับ "ฟ้าขาว" ได้สำเร็จ หลังพาทีมผงาดคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2021 ด้วยการบุกไปเฉือนเอาชนะ ทีมชาติบราซิล ได้ถึงถิ่น มาราคานา สังเวียนศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าภาพด้วยสกอร์ 1-0
ซึ่งหลังจบเกม ดาวเตะวัย 34 ปี ได้โพสต์รูปคู่ถ้วยแชมป์ในห้องแต่งตัวลงอินสตาแกรมส่วนตัวให้แฟนๆ ได้ชื่นชม ปรากฏว่ารูปดังกล่าวมียอดคนกดไลค์สูงถึง 20.2 ล้านครั้ง ทำลายสถิติเดิมของ คริสเตียโน โรนัลโด ซึ่งเคยโพสต์รูปคู่ ดีเอโก มาราโดนา เพื่อไว้อาลัยการเสียชีวิตซึ่งมียอดไลค์ 19.83 ล้านครั้ง
จากความสำเร็จหนแรกในนามทีมชาติอาร์เจนตินาชุดใหญ่นี้เอง ทำให้ เมสซี ชนะใจกรรมการ คว้ารางวัลลูกฟุตบอลทองคำ "บัลลงดอร์" ในฐานะนักเตะยอดเยี่ยมประจำปี 2021 ไปครองเป็นสมัยที่ 7 ฉีกหนีคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง โรนัลโด ที่ทำได้ 5 สมัยออกไปอีกก้าว