ไทยรัฐออนไลน์
KBU SPORT POLL เผยผลการสำรวจความคิดเห็นแฟนบอลไทยพบว่า ส่วนใหญ่ยังมั่นใจว่าทัพช้างศึกจะทวงแชมป์ซูซูกิ คัพ มาครองได้ แม้เวลาเตรียมทีมน้อย พร้อมยก "เวียดนาม" เป็นคู่ปรับเบอร์หนึ่งในทัวร์นาเมนต์นี้
ก่อนที่ทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย จะมีคิวฟาดแข้งในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2020 หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ล่าสุด KBU SPORT POLL โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ได้สำรวจความคิดเห็นแฟนบอลไทยในเรื่อง “ทีมช้างศึกกับความหวังในฟุตบอลแห่งชาติอาเซียน 2020”
สำหรับการสำรวจดังกล่าว ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์และภาคสนามระหว่างวันที่ 20 - 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาโดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจและติดตามข่าวสารทางการกีฬา ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,287 คน โดยแบ่งเป็นเพศชาย 829 คน คิดเป็นร้อยละ 64.41 เพศหญิง 458 คน คิดเป็นร้อยละ 35.59 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ โดยภาพรวมพบว่า
ความสนใจที่จะติดตามการแข่งขัน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 89.33 สนใจ รองลงมาร้อยละ 7.51 ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 3.16 ไม่สนใจ
สื่อหรือช่องทางที่จะติดตามการแข่งขัน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.17 โซเชียลมีเดีย รองลงมาร้อยละ 39.64 วิทยุโทรทัศน์ ร้อยละ 10.66 หนังสือพิมพ์ ร้อยละ 5.08 วิทยุกระจายเสียง ร้อยละ 2.04 สนามการแข่งขันถ้ามีการเปิดให้เข้าชมได้ และอื่นๆ ร้อยละ 1.41
โอกาสและความหวังของทีมชาติไทยกับการคว้าแชมป์ ส่วนใหญ่ร้อยละ 48.19 มีโอกาส รองลงมาร้อยละ 39.62 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 12.19 ไม่มีโอกาส
ทีมคู่แข่งที่น่าเกรงขาม ส่วนใหญ่ร้อยละ 38.44 เวียดนาม รองลงมา ร้อยละ 27.35 มาเลเซีย ร้อยละ 24.08 สิงคโปร์ ร้อยละ 5.17 เมียนมา ร้อยละ 3.94 ฟิลิปปินส์ และอื่นๆ ร้อยละ 1.02
ปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลต่อความสำเร็จของทีมชาติไทย ส่วนใหญ่ร้อยละ 33.79 ระยะเวลาในการเตรียมทีม ร้อยละ 31.63 สมรรถนะของผู้เล่น ร้อยละ 24.06 สมรรถนะของผู้ฝึกสอน ร้อยละ 6.18 การสนับสนุนของสมาคมกีฬาฟุตบอลและผู้เกี่ยวข้อง ร้อยละ 2.33 แรงเชียร์จากแฟนบอล และอื่นๆ ร้อยละ 2.01
ด้าน ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจดังกล่าวจะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจที่จะติดตามการแข่งขัน ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่านักเตะทีมช้างศึก ว่างเว้นจากการแข่งขันระดับนานาชาติมาอย่างยาวนานก็ว่าได้ ในขณะเดียวกันถึงแม้ว่าทีมชาติไทย จะประสบกับปัญหาการเตรียมการล่วงหน้าก็ตามแต่แฟนลูกหนังยังเชื่อว่า ด้วยศักยภาพของนักเตะเมื่อเปรียบเทียบกับทีมเพื่อนบ้านในอาเซียน โดยเฉพาะทีมชาติเวียดนาม ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามก็ตาม แต่ทีมช้างศึกก็ยังมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์มาครองได้เช่นเดียวกัน
และที่น่าสนใจ หากพิจารณาในภาพรวมสำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันของทีมชาติไทยในรายการนี้ ด้วยปัจจัยและองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพของนักเตะ และทีมงานผู้ฝึกสอน เมื่อมาผนึกพลังกับการบริหารจัดการ ของผู้จัดการทีมอย่าง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ตลอดจนการสนับสนุนของสมาคมฟุตบอลฯ และผู้เกี่ยวข้องด้วยแล้ว เชื่อว่าทีมช้างศึกสามารถที่จะคว้าแชมป์มาครอง เพื่อสร้างความสุขให้กับแฟนลูกหนังได้อีกวาระหนึ่ง.