บี บางปะกง
ฟุตบอล...ต้องบริหารโดย “คนฟุตบอล”
สัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนวงการลูกหนังไทยจะคึกคักเป็นพิเศษ
คงเป็นเพราะ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ นวลพรรณ ล่ำซำ เริ่มกลับมาออกแอคชั่นลุยงานทั้งในและต่างประเทศ (อีกครั้ง)
โดยเฉพาะการเดินทางไปยังแดนอิเหนา เพื่อประชุมหารือกับ เอริค ตอฮิร ประธานสหพันธ์ลูกหนังอินโดนีเซีย คนดัง
ที่กำลังเดินหน้าพัฒนาฟุตบอลของประเทศตัวเอง ให้ก้าวขึ้นมาเป็น “เต้ย” ของอาเซียน อย่างน่าจับตาเป็นที่สุด!
ซึ่ง “นายกแป้ง” ได้พูดคุยหัวข้อสำคัญของการพัฒนาฟุตบอลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมถึงความร่วมมือในอนาคตของ “ไทย และ อินโดนีเซีย”
ที่น่าจะเป็นแนวทางในการยกระดับให้ทั้งสองชาติ มีโอกาสก้าวไปเป็นหัวแถวของทวีปเอเชียในอนาคต
โดย ประมุขลูกหนังไทย ได้ร่วมส่งกำลังใจให้กับทีมชาติอินโดนีเซีย ในการสู้ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่กำลังทำการแข่งขันกันอยู่ในเวลานี้
พร้อมถือโอกาสเชิญชวนประธานตอฮิร มาร่วมชมการแข่งขันฟุตบอล คิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ที่จังหวัดสงขลา ในสัปดาห์หน้าอีกด้วย
และการนับถอยหลังสู่ศึกลูกหนังชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ 2024 ในครั้งนี้
ก็เป็นที่น่ายินดีที่ “นายกแป้ง” ได้ออกมาไลฟ์สด ถึงการเตรียมความพร้อมต่างๆ รวมทั้งโปรโมตทัวร์นาเมนต์ ด้วยตัวเอง
เพราะการขับเคลื่อน บริหารงานของสมาคมลูกหนังไทยในยุคนี้ ถ้าจะใช้ถูกทิศถูกทาง และก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจกันจริงๆ
คนเป็นผู้นำที่มีแสงสว่างในตัวเอง อย่าง “มาดามแป้ง” นั่นแหละครับ
เหมาะที่สุดแล้ว ที่จะเป็นตัวดึงดูดให้ผู้สนับสนุนทั้งหลาย เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน ซัพพอร์ตบอลไทยของเรา อย่างเต็มที่
เช่นเดียวกับเก้าอี้เลขาธิการสมาคมฯ ของ พันตำรวจโท หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร
ตอนแรกหลายคนเป็นห่วง เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งมายังไม่เห็นมีบทบาทอะไรเลย
กระทั่งมาเบาใจขึ้น ก็ในช่วงนี้นี่แหละ ที่ “หม่อมป๊อบ” เริ่มปรากฎตัวออกสื่อ
ลุยกิจกรรมหลายอย่างในสมาคมฯ อย่างเป็นเนื้อเป็นหนัง
พร้อมดึงตัว วรวรรณ ชิตะวณิช อดีตยอดมิดฟิลด์ทีมชาติไทย จากสโมสรราชประชา เข้ามาเป็นผู้ช่วยเลขาฯ
โดย “โค้ชป้ำ” จะเข้ามาช่วยงานบริหาร และประสานงานกับต่างประเทศเป็นหลัก
รวมทั้งดูแลเรื่องเอกสารต่างๆ ที่มีเข้ามายังสมาคมฯอย่างมากมายก่ายกองในแต่ละวัน
นับเป็นการเปิดโอกาสให้ “คนฟุตบอล” ระดับคุณภาพ ตัวจริง เสียงจริงของบ้านเรา อีกคนนึง
ได้เข้ามาบริหารฟุตบอลไทย อย่างน่าชื่นชม
หลังจากก่อนหน้านี้ มีทั้ง “อาจารย์หรั่ง” ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน และ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน
ประสานมือช่วยกันเป็นหัวหอกลุยงานในส่วนของการพัฒนาทีมชาติไทยทั้งระบบ ซึ่งเป็นอะไรที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
และอีกอย่างที่น่าดีใจ คือภาพของพ่อบ้านสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
ได้มีโอกาสให้การต้อนรับ “ชมรมนักฟุตบอลทีมชาติไทย” ที่มี ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เป็นประธาน
ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สมาคมฯ ได้มีโอกาสพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาและยกระดับฟุตบอลทีมชาติไทย
กับอดีตทีมชาติผู้มากประสบการณ์หลายๆท่าน อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
อันจะเป็นประโยชน์สำหรับการนำแนวความคิดเหล่านี้ ไปต่อยอดเพื่อการเดินหน้าของวงการลูกหนังบ้านเราต่อไป
นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ยังได้มอบสิทธิประโยชน์แก่นักฟุตบอลทีมชาติไทย
ตามนโยนายของ“นายกแป้ง” ที่ต้องการสนับสนุนอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยทุกคน
โดยจะไม่มีการทอดทิ้งใครไว้ข้างหลังทั้งสิ้น
นับจากนี้ นักเตะทีมชาติไทยทุกยุคทุกสมัย จะได้สิทธิเข้าชมเกมฟาดแข้งของทีมชาติ “ฟรี”ทุกแมตช์ ทุกรายการ อย่างไม่มีเงื่อนไข
และต่อไปจะมีการทำบัตรประจำตัวให้ “นักฟุตบอลทีมชาติ” ทุกคน อย่างเป็นทางการ
เพื่อเป็นเกียรติประวัติ และรับสิทธิประโยชน์ต่างๆที่สมาคมฯจะมอบให้ในอนาคต
เป็นการตอบแทนคุณงามความดี สำหรับการรับใช้ประเทศชาติที่ผ่านมา
เรียกว่า ต้องปรบมือให้ สมาคมฟุตบอลไทย ยุคนี้
ที่เน้นบริหารงานโดย “คนฟุตบอล”
เพื่อความก้าวหน้าของกีฬาฟุตบอลบ้านเรา...โดยแท้ !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com