บี บางปะกง
ทีมแห่งความหวัง !!
ทีมลูกหนังเยาวชนไทย ยู17 บินไปปักหลัก ที่แดนอิเหนา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพื่อเตรียมลงบู๊แข้งในศึกชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี (ASIAN U16 BOYS’ CHAMPIONSHIP 2024)
ที่กำลังจะระเบิดเกือกกันขึ้น ระหว่างวันที่ 21 มิ.ย.-4 ก.ค.67 ที่เมืองสุราการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย
ทีมช้างศึกจูเนียร์ชุดนี้ มี “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ เป็นกุนซือใหญ่คุมทัพ
ทำงานร่วมกับ อนุรุทธิ์ นาคาศัย สภากรรมการ ที่รับบทผู้จัดการทั่วไป
ส่วนนักเตะทั้ง 23 คน มาจากโครงการ FA Talent Id ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมมือกับ ฟีฟ่า
ส่งทีมงานโค้ชออกไปคัดเลือกจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
โดยทีมชุดนี้ถือเป็นความหวังในการที่จะซิวตั๋วไปลุยรอบสุดท้าย ในฟุตบอล 17 ปีชิงแชมป์โลก 2025 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพ
หลังจากที่ ฟีฟ่า เปิดโอกาสให้ทวีปเอเชีย ได้โควตาไปลุยเวิลด์คัพเยาวชนถึง 8 ทีมด้วยกัน
ซึ่งในอดีต เราเคยสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นบอลโลก 17 ปีมาแล้วถึง 2 ครั้งติดต่อกันก็จริง
แต่ยุคนั้นฟุตบอลเยาวชนในภูมิภาคเอเชียหลายประเทศ ยังมีปัญหาเรื่องนักเตะอายุเกิน ไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือที่เรียกว่า “เด็กดอง”
ก่อนที่ เอเอฟซี จะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ เพื่อให้การพัฒนาบอลเด็กถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกับสากลโลก
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ทีมเยาวชนไทย ก็ไม่เคยตีตั๋วเข้ารอบสุดท้าย เวิลด์คัพ ได้อีกเลย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตาม
จนมาถึงครั้งนี้ ซึ่งโอกาสเปิดกว้างแล้ว สำหรับประตูสู่ฟุตบอลเยาวชนโลก ยู17 อีกครั้ง
ขอเพียงพาตัวเองให้ทะลุเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกชิงแชมป์เอเชีย ปีหน้า ให้ได้ ก็จะสมหวังไปลุยบอลโลกทันที
โดยทัวร์นาเมนต์ชิงเจ้าอาเซียนบนแผ่นดินอิเหนาครั้งนี้ ถือเป็นการชิมลางในการเตรียมทีมเพื่อเช็คความพร้อม ดูจดอ่อน จุดแข็ง
ก่อนที่เราจะไปเจอของจริง บนเส้นทางสู่ฟุตบอลโลก 17 ปี รอบสุดท้าย “กาตาร์ 2025”
ซึ่งจะเริ่มขึ้นในรอบคัดเลือก ที่ชลบุรี ในเดือน ต.ค. โดย เด็กไทย อยู่ร่วมสาย เติร์กเมนิสถาน, บรูไน และ อินเดีย
รอบคัดเลือกเอเชีย แบ่งการแข่งขันออกเป็น 10 กลุ่ม
ทีมแชมป์กลุ่ม 10 ทีม และ อันดับ 2 ที่ดีที่สุดจาก 10 กลุ่มอีก 6 ทีม จะผ่านเข้ารอบสุดท้าย ที่ซาอุดิอาระเบีย
ซึ่งศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย จะโม่แข้งกัน 16 ทีม ในปีหน้าเดือน เม.ย.68
เพื่อคัดเอา 8 ทีมตัวแทนเอเชีย ไปลุยบอลเยาวชนโลกที่กาตาร์ ในท้ายที่สุด
ดังนั้นทาง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดย “นายกแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ จึงเน้นหนักในการเตรียมความพร้อมของทีมชุดนี้อย่างดีที่สุด
เพราะถือเป็นทีมแห่งอนาคต และทีมแห่งความหวัง ของวงการลูกหนังไทย อย่างแท้จริง
ซึ่งนอกจาก “เซอร์เด็จ” ที่เป็นเฮดโค้ชคุมทีมอย่างเข้มข้นแล้ว
สมาคมฯยังได้มอบหมายให้ ฝ่ายเทคนิค ที่นำโดย “อาจารย์หรั่ง” ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน และ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน
ลงไปคอยดูแลให้คำปรึกษาถึงแนวทางการทำทีมอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
สำหรับศึกชิงแชมป์อาเซียนคราวนี้ ทีมชาติไทย ยู17 อยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ มาเลเซีย, ติมอร์ เลสเต และ ออสเตรเลีย
มีโปรแกรมโม่แข้ง ดังนี้
อาทิตย์ที่ 23 มิ.ย. เวลา 15.00 น. พบ ออสเตรเลีย ที่ศรีเวดารี สเตเดียม
พุธที่ 26 มิ.ย. เวลา 19.30 น. พบ ติมอร์ เลสเต ที่ศรีเวดารี สเตเดียม
เสาร์ที่ 29 มิ.ย. เวลา 15.00 น. พบ มาเลเซีย ที่มานาฮาน สเตเดียม
โดยการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม จะนำทีมแชมป์ จากทั้ง 3 กลุ่ม พร้อมรองแชมป์ที่ผลงานที่ดีที่สุดจากทั้ง 3 กลุ่ม ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะเตะกันในวันที่ 1 ก.ค.
ส่วน นัดชิงชนะเลิศ และ ชิงอันดับ 3 แข่งขันกันในวันที่ 4 ก.ค.
นี่คือก้าวแรกของทีมเยาวชนไทย สู่บันไดฟุตบอลโลก ที่ทุกคนไฝ่ฝัน
น่าเสียดายทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่มีการถ่ายทอดสดมาให้ได้ดูกัน
แต่เชื่อเหอะแฟนบอลบ้านเรา เก่งอยู่แล้วล่ะ
ประเดี๋ยววันแข่ง ช่องทางธรรมชาติ...ก็มากันพรึ่บบ 555
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com