ไทยรัฐออนไลน์
อนาคต “โค้ชซิโก้”
การประกาศลาเก้าอี้กุนซือใหญ่ คองอันห์ ฮานอย รองจ่าฝูงวีลีก เวียดนาม
แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ของ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
สร้างความฉงนปนแปลกใจให้กับแฟนลูกหนังเป็นอย่างยิ่งครับ!
เพราะเจ้าตัวเพิ่งมารับงานที่สโมสรยักษ์ใหญ่แดนเหงียนแห่งนี้ได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น
ผลงานก็ยังไม่มีอะไรเสียหาย ทีมยังอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ด้วยซำ้ไป
ซึ่งผมได้มีโอกาสคุยกับแม่บ้านของซิโก้ คือ “มาดามเปิ้ล” อัสราภา เสนาเมือง
ก็พอจะเข้าใจถึงเหตุผล ว่าเป็นเรื่อง “วิถีฟุตบอล” ล้วนๆ ที่ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจอย่างนี้
ไม่มีใครมากดดัน แทรกแซง หรือทำอะไรให้ลำบากใจในการทำงานกับสโมสรเลยแม้แต่น้อย
ตรงกันข้าม เขากลับได้รับการดูแลซัพพอร์ตจากทุกคนที่นี่ เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะประธานใหญ่ของทีม ซึ่งเป็นนายตำรวจระดับบิ๊กเบิ้มของเวียดนาม
ยังพยายามยับยั้งไม่ให้ “ซิโก้” ลาออก
แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเรื่องนี้เขาคิดมาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ช่วงที่ทีมเตะติดๆ กัน แล้วผลงานไม่ค่อยดี
ซึ่งด้วยมาตรฐานของสโมสรคองอันห์ ฮานอย ที่มีนักเตะคุณภาพคับแก้วระดับทีมชาติดาวทองอยู่ล้นทีม
ยังไงไม่มีโค้ชโก้ กุมบังเหียน ก็ต้องอยู่ระดับแถวหน้าของลีกอยู่แล้ว
ดังนั้นการแยกทางกันขณะที่ผลงานเริ่มกลับมาเข้าฝัก จึงน่าจะเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด!
ประมาณว่า ทีมนี้มันดีอยู่แล้ว แต่บางทีตัวเองอาจไม่เหมาะสมกับงานที่นี่ก็เป็นได้
ด้วยสไตล์ “โค้ชซิโก้” ซึ่งเขาคงจะตั้งเป้าหมายอะไรที่มันดีกว่านี้เอาไว้
แต่พอทำไปแล้วไม่เป็นตามเป้า เลยขอถอยเองดีกว่า
เพราะนี่ก็เกือบ 4 ปี ที่เจ้าตัวมาคุมทีมที่เวียดนาม ตั้งแต่ ฮองอันห์ ยาลาย อู่ข้าวอู่นำ้ ยันจนถึง โปลิศ ฮานอย
ก็คงถึงเวลาซะที ที่จะกลับบ้านได้แล้ว
ส่วนเรื่องของอนาคต เปิ้ลยืนยันว่ายังไม่มีแพลนอะไร ขอกลับมาพักผ่อนและตั้งหลักที่เมืองไทยก่อน
ข่าวลือที่จะมารับงานสโมสรใหญ่ในไทยลีก หรือไปทำทีมชาติไทย ยู-23
ยังไม่มีอะไรในกอไผ่ หรือใครติดต่อมาทั้งนั้น
ซึ่งความเหมาะสมตรงนี้ ผมมองเห็นอย่างเดียวกับ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นะครับว่า
ถ้า “โค้ชซิโก้” จะกลับมารับงานอีกครั้ง
ก็ควรจะเป็นกุนซือคุมทีมช้างศึก 23 ปี นี่แหละ เหมาะเหม็งที่สุด
เพราะบารมีของ คนชื่อ “เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” ที่เคยฝากไว้กับ ทีมชาติทั้งชุดเล็ก-ชุดใหญ่ ยังมีเหลือเฟือ
แฟนบอลส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่าในยุคของซิโก้ คือยุคที่ “ทีมชาติไทย” ฮอตฮิต ติดลมบน
มีมูลค่าทางการตลาดสูงสุด
ดังนั้นถ้าคนคุณภาพอย่างเค้า จะคัมแบ็กมารับงานคุมทีมชาติยู-23 จริงๆ ทุกคนก็น่าจะแฮปปี้
และด้วยความสัมพันธ์อันแนบแน่นของ “นายกฯ แป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ดีลนี้น่าจะเกิดขึ้นไม่ยากเย็น
ยิ่งปีหน้า ประเทศไทยเรากำลังจะเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ 2025 ด้วยแล้ว
“เหรียญทองฟุตบอล” ก็คือทองเท่ากระด้ง ที่เป็นสุดยอดปรารถนา
ที่เราต้องการจะทวงบัลลังก์ที่ห่างหายไปหลายปีให้คืนกลับมาอีกครั้งให้ได้
ซึ่งดูแล้วภารกิจตรงนี้ เหลียวซ้าย แลขวา ก็ยังไม่เห็นใครที่จะเหมาะไปกว่า “โค้ชซิโก้” เลยสักคน
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น คงไปต้องไปถามแนวคิดของผู้บริหารสมาคมฯ อย่าง “เสี่ยปิ๊บ” ปวิณ ภิรมย์ภักดี
ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลทีมชาติไทย 23 ปีด้วย ว่าจะเห็นเป็นอย่างไร?
เพราะแว่วข่าวมาล่าสุด บิ๊กบอสบีจี ดูจะชอบใจใน “เจแปนเวย์” ซะมากกว่า
เนื่องจากจะให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับ โค้ชทีมชาติชุดใหญ่ “มาซาทาดะ อิชิอิ”
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ “โค้ชซิโก้” ก็คงต้องร้องเพลง “รอ” ไปก่อน...ตามระเบียบ!!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com