หน้าแรกแกลเลอรี่

ช้างศึกสู้แค่ที่มี ล่าตั๋วโอลิมปิก

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

14 เม.ย. 2567 05:10 น.

เทศกาลสงกรานต์แสนสำราญใจ ประชาชนแฟนบอลทั่วไปคงได้พักผ่อนกันเต็มที่

แต่สำหรับ “ช้างศึกจูเนียร์” ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี มีภารกิจอันหนักอึ้งที่ต้องทำ

พวกเขาจ่อลงทำหน้าที่ในฟุตบอล “เอเอฟซี ยู-23 แชมเปียนชิป 2024” ซึ่งกำลังจะฟาดแข้งกันในระหว่างวันที่ 15 เม.ย.-3 พ.ค.นี้ ที่ประเทศกาตาร์

รายการนี้มีตั๋ว โอลิมปิกเกมส์ เป็นเดิมพันโดยจะคัดเอาตัวแทนทวีปเอเชีย 3.5 ทีม ไปแข่งขันใน “ปารีส 2024” เดือน ก.ค.ด้วย

ทีม 3 อันดับแรกจะผ่านเข้ารอบแบบอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 4 จะต้องไปเล่นเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 4 จากทวีปแอฟริกา

ซึ่งหลังจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศ ไทยฯ ทำการประกาศรายชื่อ 23 นักเตะชุดนี้ออกมา หลายคนคงกุมขมับ เนื่องจากไม่มีชื่อของตัวหลักทั้งหลายอย่างชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, ทรงชัย ทองฉ่ำ, จักรพงษ์ แสนมะฮุง, อนันต์ ยอดสังวาลย์, อิรฟาน ดอเลาะ, เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด, โจนาธาร เข็มดี ฯลฯ

ด้วยเหตุผลที่ค่อนข้างแสลงใจที่ว่า สโมสรไม่ปล่อย!!!

หนำซ้ำในนาทีสุดท้ายยังต้องเสีย ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าจากโอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยียม ซึ่งเป็นตัวความหวังของทีมชุดนี้ไปอีก โดย “เจ้าแบงค์” ให้เหตุผลว่า โดนอาการบาดเจ็บรบกวน

แม้ว่า “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร กุนซือใหญ่ของทีมชุดนี้ จะออกมาเปิดเผยว่า การขาดศุภณัฏฐ์ ไม่ถึงกับเสียหาย เพราะก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาในการเตรียมทีมชุดนี้ก็ไม่เคยมีศุภณัฏฐ์อยู่แล้ว

แค่เสียดายคุณภาพที่จะได้เพิ่มมา เพราะการมีศุภณัฏฐ์ก็เหมือนมีอาวุธหนักเพิ่มเติมให้ทีม

แต่ลึกๆแล้วทุกคนรู้ดีว่า “โค้ชหระ” โดนความกังวลเล่นงานเพิ่มมากขึ้นอีกเป็นทวีคูณ

เมื่อเหลือบมองตัวผู้เล่นในชุดนี้แล้ว นำทัพโดย ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท, ชนภัช บัวพันธ์, เศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์, ชิษณุพงษ์ โชติ, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ และเอราวัณ การ์นิเย่ ลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส จากสโมสรโอลิมปิก ลียง ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ตัวหลักของบรรดาสโมสรต่างๆ

ความฟิตมีปัญหาแน่

อย่างไรก็ตาม “โค้ชหระ” ยังยืนยันหนักแน่นว่า เราจะใช้ทุกอย่างที่มีอยู่ให้ดีที่สุด อย่างน้อยเราก็มีเวลาเข้าแคมป์ทำความเข้าใจร่วมกันนานพอสมควร

นี่จึงน่าจะเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในการพาให้เราเอาตัวรอด

สำหรับ “ชิงแชมป์เอเชีย” ครั้งนี้ “ช้างศึกจูเนียร์” ทีมชาติไทย ชุดยู–23 อยู่ในกลุ่มซี มีโปรแกรมฟาดแข้งรอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด

วันที่ 16 เม.ย. พบกับอิรัก ที่อัล ยานูบ สเตเดียม จากนั้นวันที่ 19 เม.ย. พบกับซาอุดีอาระเบีย ที่คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม และวันที่ 22 เม.ย. พบกับทาจิกิสถาน ที่อัล ยานูบ สเตเดียม

ทั้ง 3 นัดลงเล่นตามเวลาประเทศไทย 22.30 น. และทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดให้ชมทางช่องทรูสปอร์ต 2 (หมายเลข 667) ครบทุกนัด

แน่นอนว่าดูจากตัวผู้เล่นแล้ว คงไม่มีใครกล้าที่จะไปคาดหวังอะไร

แต่ “ช้างศึกจูเนียร์” กำลังตกอยู่ในสภาวะ “หลังพิงฝา”

ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการ “สู้ให้ถึงที่สุด”

อย่างน้อยก็เพื่อแฟนบอล

ที่เขากำลังเอาใจช่วยอยู่.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่