ภารกิจสำคัญ

ยังต้องรอการจดทะเบียนสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯชุดใหม่ ภายใต้การนำของนายกสมาคม “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ จากการกีฬาแห่งประเทศไทยในฐานะนายทะเบียนกันต่อไป แม้ว่า กกต.สมาคมกีฬาฟุตบอลฯจะให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปแล้ว

ขณะที่ก็มีการร้องค้านจากหนึ่งในผู้สมัคร “อ๋อ วังโอ่ง” คมกฤช นภาลัย ซึ่งกล่าวหาว่าการเลือกตั้งนั้นมีการทำผิดข้อบังคับรวม 4 ข้อ และยื่นเรื่องต่อกกท.ไป

แน่นอนเมื่อ กกท.รับเรื่องไปก็ต้องมีการตรวจสอบ และสรุปกันออกมาว่าผิด ไม่ผิด อย่างไร ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการที่เปิดช่องไว้ แต่ตามกรอบเวลาทั้งหมดหลังรู้ผลเลือกตั้งก็คงไม่เกิน 30 วันนั่นแหละ

ที่ไหนมีเลือกตั้งที่นั่นมักมีการร้องเรียน ดูจะเป็นเรื่องปกติกันไปแล้ว ก็ว่ากันไปตามระเบียบ

แต่ตอนนี้แม้ยังไม่จดทะเบียนกันอย่างเป็นทางการ แต่ทุกอย่างก็เดินหน้าไปตามครรลอง “นายกแป้ง” เอง ก็ถือโอกาสวันวาเลนไทน์ เข้าไปที่สมาคมพบปะกับเจ้าหน้าที่ด้วยความหวานชื่น มีแต่รอยยิ้ม

ฝั่งของทีมงานอย่าง หลัง “อาจารย์หรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน ขยับตัวนำเสนอแนวทางวันก่อนวันวาน “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน สภากรรมการป้ายแดง ก็ฟิตจัดเช่นกัน เชิญอดีตกองหน้าทีมชาติไทยหลายคน และหลายยุค เข้ามาร่วมพูดคุยวางแนวทางเตรียมพัฒนากองหน้าตามทางที่ถนัด ดูก็คึกคักกันดี

หวังว่าจะไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ

นอกเหนือจากภารกิจในการพัฒนาทีม และวางระบบต่างๆแล้ว งานใหญ่ที่สำคัญยิ่งและเป็นภารกิจพิเศษที่ต้องเตรียมการให้ดี กับการประชุมสมัชชาใหญ่ฟีฟ่า ครั้งที่ 74 หรือ FIFA Congress 2024 ซึ่งกำหนดไว้วันที่ 17 พ.ค.2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และก่อนหน้านั้นก็ยังจะมีการประชุมย่อยอีกมากมาย

โดยจะมีคนฟุตบอลของโลกใบนี้ทั้งจากสหพันธ์โซนต่างๆยังรวมถึงนายกสมาคมฟุตบอล และทีมงาน จาก 211 ชาติสมาชิกทั่วโลก รวมถึงตำนานนักเตะ และยอดนักเตะในปัจจุบัน วีไอพี และสื่อมวลชนจากทั่วโลกมาร่วม รวมแล้วไม่น้อยกว่า 3,500 คน

เนื้อหาของการประชุมนั้นมีเรื่องสำคัญเพียบ นอกจากมีการรับรองเรื่องต่างๆของฟีฟ่าที่จะมีผลต่อกลไกฟุตบอลทั่วโลก ยังมีการโหวตเลือกเจ้าภาพฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2027 ด้วย โดยผู้เสนอตัวจัดนั้น มี 2 กลุ่มเจ้าภาพร่วม กับ 1 ประเทศเดี่ยว ได้แก่ เบลเยียม-เยอรมนี-เนเธอร์แลนด์ กับ เม็กซิโก-สหรัฐอเมริกา และบราซิล เจ้าภาพเดี่ยว

สำคัญแค่ไหนลองคิดดู ซึ่งต้องมีรายละเอียดมากมายทั้งเกี่ยวพันกับหลายภาคส่วนในการเตรียมการ ตั้งแต่เดินทางมาจนถึงการประชุม และการใช้ชีวิตตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเมืองไทย ก่อนจะเดินทางกลับ

และไม่เพียงสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดย “นายกแป้ง” ที่ต้องมีบทบาทสำคัญแน่นอน รัฐบาลไทยโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งคงจะได้กล่าวในที่ประชุมด้วยนั้น ก็ต้องเป็นหัวเรือใหญ่ที่ทำให้อีเวนต์นี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย ซึ่งทั้งสองท่านจะต้องร่วมมือกันในภารกิจใหญ่ยักษ์นี้

มองในแง่ตัวบุคคลก็ต้องถือเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม พอจะมั่นใจได้ แต่ก็อดเสียวไม่ได้กับช่วงเวลาที่จะจัดในเดือน พ.ค. ซึ่งถือเป็นเดือนร้อนเดือนหนึ่งของเมืองไทย

งานใหญ่รออยู่ หวังว่าทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี...

“เบี้ยหงาย”

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่