โจโจ้
บอกได้คำเดียว “ว้าวว้าวว้าว” สำหรับผลงาน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่ทะยานเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอล “เอเชียน คัพ 2023” ด้วยฝีเท้าของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร
สารภาพตามตรงว่า “อึ้ง ทึ่ง เสียว” เวลาที่นั่งดูช้างศึกลงสนาม โดยเฉพาะนัดส่งท้ายกับ ซาอุดีอาระเบีย ใครจะคิด ว่า “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือปลาดิบ จะบ้าระห่ำเปลี่ยนตัวนักเตะแบบ
ที่ใครก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น เชื่อว่าต้องมีก่นด่า ก่อนลงสนามพอสมควร
จริงอยู่ก่อนเตะไม่มีใครคิดว่า ช้างศึกจะยันเสมอยอดทีมอย่างซาอุฯได้ เพราะชื่อชั้นและแรงกิ้งโลกรวมถึงประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
เชื่อว่าทุกคนคิดเหมือนผมแพ้น้อยสัก 1-2 ลูกก็ประสบความสำเร็จเพราะยังไงก็เข้ารอบไปแล้ว
พระเจ้าช่วย! สุดท้ายไอ้ทีมที่เราคิดไว้ตอนแรกเมื่อเห็นการจัดตัวนักเตะลงสนามอย่างบ้าระห่ำของ อิชิอิต้องพ่ายอย่างเละเทะไม่มีชิ้นดี กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถแบ่งแต้มซาอุฯได้อย่างเหลือเชื่อ
ยิ่งลูกเซฟจุดโทษของ “สรานนท์ อนุอินทร์” ผู้รักษาประตูหน้าใหม่จากสโมสรเชียงราย ที่เพิ่งติดทีมชาติครั้งแรก แต่ฟอร์มกลับตรงข้ามไม่มีตื่นสนามแต่อย่างใด
ทั้งหมดทั้งมวลหลักๆ ต้องยกเครดิตให้กับ “อิชิอิ” ยอดกุนซือที่สามารถทำให้นักเตะทุกคนสามารถเค้นฟอร์มอันยอดเยี่ยมทุกนัดที่ลงสนาม
จากนี้ไปเชื่อว่าแฟนคลับหลายคนน่าจะเป็นเหมือนผม ที่ต้องหวนกลับมาดูบอลไทยอีกครั้ง หลังจากที่เบื่อหน่ายเลิกเชียร์มานานเพราะผลงานที่ห่วยแตกในช่วงก่อน
ผลงานอันสุดเจ๋งใน “เอเชียน คัพ 2023” จะทำให้บรรดาแฟนคลับและสาวกช้างศึกกลับคืนสู่สนามบอลอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย
กอปรกับสมาคมฟุตบอลกำลังจะเลือกประมุขคนใหม่ในวันที่ 8 ก.พ.เชื่อว่าจากนี้ไปวงการลูกหนังไทยจะกลับมาคึกคักเหมือนเมื่อก่อนแน่นอน
ที่น่าดีใจหลังจากจบรอบแบ่งกลุ่มช้างศึกกลับมาติดท็อป 100 ครั้งแรกในรอบ 14 ปี ที่สำคัญยังยึดเบอร์ 1 อาเซียนคืนมาได้อย่างไร้ข้อกังขา
ค่ำวันนี้ช้างศึกกำลังจะโม่แข้งในรอบ 16 ทีมกับอุซเบกิสถาน ส่งกำลังใจเชียร์กันครับให้ไทยก้าวไปสู่ความสำเร็จ เปิดช่องพีพีทีวี 36 และทีสปอร์ต 7 ชมตั้งแต่เวลา 18.30 น.เป็นต้นไป
อย่าลืมนะครับ เสียงเชียร์คือกำลังใจอันยิ่งใหญ่ให้ช้างศึกสมหวัง.
โจโจ้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่