บี บางปะกง
สมศักดิ์ศรีสโมสรไทย
ผลงานของ 3 สโมสรไทย ในศึกลูกหนังถ้วยเอเชีย “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2023-24” รอบแบ่งกลุ่ม นัดรองสุดท้าย
มีครบทุกรสชาติจริงๆ ครับ ทั้ง สมหวัง ผิดหวัง และพะบู๊ใส่กันชนิดชุลมุนอุตลุด จนกลายเป็นรอยแค้นที่ยากจะลบเลือน
ผิดหวังที่สุดน่าจะเป็น “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ปราชัยคาบ้านต่ออุลซาน ฮุนได 1-3
ผ่านไปแล้ว 5 เกม ยังเก็บไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียว กระเด็นตกรอบสนิท แบบไม่ได้ลุ้นกับเขาเลย
เหลือเกมสุดท้าย ที่จะบุกไปเยือน ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ที่แดนเสือเหลือง ในวันที่ 12 ธ.ค.
ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว!
นอกจากไว้ลายเอาแต้มกลับมาฝากแฟนๆ ชาวไทยให้ได้สักคะแนน...ก็ยังดี
ไม่อย่างงั้น ถ้าเล่น 6 แมตช์ แล้วรับประทาน “ไข่” ไม่มีแต้มติดกระเป๋าเลย
มันจะเสียฟอร์มที่ชาติเรา อุตส่าห์เป็น “เต้ย” ลูกหนังแห่งอาเซียนมาช้านาน...เอาได้ง่ายๆ
เช่นเดียวกับ แข้งเซราะกราว บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ซึ่งเกมล่าสุดทั้งผิดหวัง และเจ็บใจ แถมเจ็บตัว อีกต่างหาก
หลังบุกไปยิงนำ เจ้อเจียง 1-0 แต่สุดท้ายโดนเจ้าถิ่นแซงเอาชนะไปได้ 3-2
ต้องไปวัดเข้ารอบในเกมสุดท้าย ซึ่งต้องเอาชนะ เวนต์โฟเร็ท โคฟุ จากเจลีก ให้ได้สถานเดียว
และต้องลุ้นให้ เจ้อเจียง ชนะ เมลเบิร์น ด้วย
หากไม่เป็นตามนี้ เท่ากับว่า บุรีรัมย์ ร่วงตกรอบทันที
ขณะเดียวกันก็ยังมาเสียชื่อเข้าให้อีก
เมื่อเกิดเหตุการณ์มวยหมู่ตะลุมบอนเข้าใส่กันของผู้เล่นทั้งสองทีมชนิดเละต้มเป๊ะ...หลังจบเกม
ปรากฏเป็นภาพข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลก!
ซึ่งทาง เอเอฟซี ต้องสอบสวนเรื่องนี้โดยด่วน และน่าจะมีบทลงโทษออกมาในอีกไม่ช้า
เพราะมันเกี่ยวกับการฉุดภาพลักษณ์ของฟุตบอลเอเชีย...ให้ดูย่ำแย่ลงไป อย่างเลี่ยงไม่ออก
ยังดีที่ ACL หนนี้ คอลูกหนังบ้านเรา ได้พบเจอกับข่าวดีให้ได้ภาคภูมิใจกันบ้าง
กับความสำเร็จของพลพรรค “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ที่กู้ศักดิ์ศรีสโมสรของไทยกลับคืนมาแบบเต็มๆ
ด้วยการเปิดทรู สเตเดี้ยม เฉือนเอาชนะไลออน ซิตี้ เซเลอร์ส จากแดนลอดช่อง 1-0
จากการตะบันลูกฟรีคิกสุดสวย ของ “รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก” ซึ่งเพิ่งหายเจ็บกลับมาเป็นฮีโร่ ในนัดนี้พอดี
เก็บเพิ่มเป็น 13 แต้ม คว้าแชมป์กลุ่ม เอฟ พร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรกของสโมสร ได้อย่างยอดเยี่ยม
ทั้งที่พวกเขาต้องแบกความกดดันไว้เต็มสองบ่า จากความปราชัยของทั้ง บีจี และ บุรีรัมย์ ที่ลงเล่นไปก่อน
ขณะเดียวกันผลงาน 2 แมตช์ก่อนหน้านี้ ที่แข้งเทพโดนคู่แข่งไล่ตีเสมอช่วงท้ายเกม ทั้งที่เล่นในบ้านตัวเอง
ทำให้กองเชียร์แอบหวั่นลึกๆ เกรงจะไม่สมหวังเข้าให้อีกในเกมนี้
แต่ที่สุดแล้ว ขุนพลลูกหนังเมืองหลวง ก็รวมพลังกันเชือดชัยเหนือยอดทีมจากเอสลีก สิงคโปร์ สำเร็จจนได้
ซึ่งคนที่โล่งใจ และยิ้มหน้าบานเป็นที่สุด คงจะเป็นใครไปไม่ได้
นอกจากท่านประธานสโมสร “บิ๊กขจร เจียรวนนท์”
ที่แม้จะติดภารกิจอยู่ในต่างประเทศ แต่ก็ส่งแรงใจมากระตุ้นลูกทีมทุกคนไม่เคยขาด
ประธานขจร ผ่านร้อน ผ่านหนาว ลองผิด ลองถูก กับสโมสรแห่งนี้ มานานเหยียบทศวรรษ
จนค้นพบว่า สิ่งที่เขาตัดสินใจถูกต้องที่สุดในชีวิตการทำฟุตบอล
คือการไว้วางใจมอบให้ กุนซือชาวไทย ที่ชื่อ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน
ได้มีโอกาสกลับมากุมบังเหียน “แข้งเทพ” อีกครั้ง
จนเจ้าตัวกลายเป็นเฮดโค้ชคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่พาสโมสรจากไทยลีก
ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ได้ถึงสองทีม
คือ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2017 และ ทรู แบงค็อก ในปี 2023
สร้างความภูมิใจ พร้อมทั้งทวงคืนศักดิ์ศรีให้สโมสรจากไทยแลนด์
ที่สำคัญ นี่คือผลงานของ “โค้ชคนไทย” ที่ต้องจารึกไว้...ให้พี่น้องชาวไทยได้จดจำ
สมดังสโลแกนของชาวบียู ที่ประกาศไว้ชัดเจนตั้งแต่ออกสตาร์ตฤดูกาลว่า...
Creating History Together, continuing A New Journey Together
สร้างประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน และร่วมเดินทางครั้งใหม่ไปด้วยกัน
ซึ่ง ณ ตอนนี้ พวกเขาทุกคน...ทำมันได้แล้วจริงๆ
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com