ไทยรัฐฉบับพิมพ์
เหลืออีกแค่ไม่กี่วันข้างหน้า “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ของเราจะมีโปรแกรมสำคัญ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มซี รอบสอง
2 นัดแรกในปีนี้ 16 พ.ย. พบทีมชาติจีน ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น. ต่อด้วยการออกไปเยือนทีมชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 21 พ.ย. ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในเวลา 19.00 น.
ซึ่งหลังจากมีดราม่าเกี่ยวกับการเรียกตัวผู้เล่นในเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่า เดย์ ที่ทวีปยุโรป เมื่อเดือนก่อน ยังทำให้แฟนบอลเกิดอาการหลอนๆกันอยู่
หวั่นใจว่า เกมคัดบอลโลกนักเตะที่ถูกเรียกเข้ามาจะฟูลทีมหรือไม่
แต่ล่าสุด “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมสาว และว่าที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯคนใหม่ พร้อมด้วยมาโน โพลกิง กุนซือใหญ่ของทีม
ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าครั้งนี้ “เอาจริง”
รายชื่อที่ออกมามีตัวหลักจากสโมสรที่ไม่ได้ส่งนักเตะร่วมอุ่นเครื่องที่ยุโรปครบครัน
“เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, “โก๋อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน, “เทพมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา, “เจ้าตังค์” สารัช อยู่เย็น, “เจ้าและห์” กฤษดา กาแมน เหล่านี้อยู่ในทีมทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีบรรดานักเตะตัวเก่งที่ค้าแข้งอยู่ต่างแดน ทั้ง 2 แข้งในเจลีก ญี่ปุ่น อย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา จากอุราวะ เรดส์ ไดมอนด์ และ สุภโชค สารชาติ จากฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร รวมถึง “เจ้าแบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ของสโมสรโอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยียม ด้วย
“มาดามแป้ง” เผยว่า เราอยู่ในกลุ่มซี ต้องยอมรับว่าเป็นงานหนัก เพราะเกาหลีใต้และจีน เป็นทีมระดับท็อปของเอเชียทั้งคู่ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ที่อยู่ในมาตรฐานระดับโลกไปแล้ว และมีนักเตะที่เล่นอยู่ในยุโรปเกือบทั้งทีม เช่นเดียวกับทีมจากโถ 4 อย่าง สิงคโปร์ ซึ่งเราก็ประมาทไม่ได้ ตนและทีมโค้ชมาโนจะต้องทำการบ้านและศึกษาคู่แข่งให้ละเอียดที่สุด
ส่วนการเรียกชื่อนักเตะ 26 คนพร้อมลุยกับ “มังกรจีน” ขอยืนยันว่า เราพยายามพิจารณาเลือกผู้เล่นให้ดีที่สุดและพร้อมที่สุด จากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แต่ก็ยอมรับว่าการเริ่มต้นเป็นอะไรที่ยากเสมอ อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เราได้เล่นเกมแรกในบ้านก่อน ก็หวังจะคว้า 3 แต้มให้ได้
ในขณะเดียวกันผู้สันทัดกรณีทั้งหลายก็แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า
การอยู่ในกลุ่มนี้ ทีมชาติไทยจะต้องแย่งชิงการเป็นทีมอันดับที่ 2 ของกลุ่มกับจีน ซึ่งไม่ต้องไปร่วมลุ้นแชมป์กับ “โสมขาว” เกาหลีใต้ เพราะ พวกเขายกระดับไปสู่เวิลด์คลาสเรียบร้อยแล้วและจะคว้าตำแหน่งแชมป์กลุ่มไปครองได้อย่างแน่นอน
ถ้า “ช้างศึก” ต้องการเข้ารอบต่อไปในฐานะรองแชมป์กลุ่ม อย่างน้อยต้องเก็บ 6 แต้มในบ้านจากจีนและสิงคโปร์ให้ได้ รวมถึงจำเป็นต้องมีแต้มในการออกไปเยือนทั้ง 2 ทีมนี้ด้วย
หาก 2 นัดแรกที่เล่นในปีนี้ เราเปิดฉากอย่างเร้าใจ ด้วยการเก็บ 6 แต้มสำเร็จ ก็มีลุ้น
ถ้าจะให้ว่ากันตามตรง “ช้างศึก” จะอยู่หรือจะไปในคัดบอลโลก
อยู่ที่ผลการแข่งขันของนัดแรกเสียด้วยซ้ำ!!!
ทั้งนี้ โปรแกรมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มซี รอบสองของทีมชาติไทย มีดังต่อไปนี้ นัดที่ 1 พบทีมชาติจีน วันที่ 16 พ.ย.66 ที่ราชมังคลา กีฬาสถาน เวลา 19.30 น., นัดที่ 2 ไปเยือนสิงคโปร์ วันที่ 21 พ.ย.66, นัดที่ 3 ไปเยือนเกาหลีใต้ วันที่ 21 มี.ค. 67, นัดที่ 4 พบเกาหลีใต้ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น., นัดที่ 5 ไปเยือนจีน วันที่ 6 มิ.ย.67 และนัดที่ 6 พบสิงคโปร์ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น.
ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดให้ชม
ครบทั้ง 6 นัด.