เวรกรรมบอลไทย

ยังเป็นปัญหาใหญ่ของวงการลูกหนังไทยหลังจากต้องเจอกับโรคเลื่อน อยู่ตลอดแบบรักษาไม่หายในการรับเงินสนับสนุนสโมสรจากสมาคมฟุตบอล เดิมในยุคของ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ที่หลายคนบ่นหนักบ่นหนา ได้อยู่ 25 ล้าน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก

แต่พอเปลี่ยนมือเข้าสู่ยุค “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เข้ามานั่งบริหารงานบ้างเพราะหลายสโมสรเคลิ้มกับนโยบายสวยหรูต่างๆนานา

สุดท้ายเป็นไงงบประมาณในการสนับสนุนบรรดาสโมสรลดจากเดิม 25 ล้านบาทเหลือ 20 ล้านบาท ไม่เท่านั้นล่าสุดมีเหตุอ้างต่างๆนานาในการตัดงบหนุนลดลงไปอีกเหลือ เพียง 14 ล้านบาท (ฟังไม่ผิดแน่นอน)

ทำเอาบรรดาสโมสรอ้าปากค้างหายใจรวยรินใกล้รอวันตายเข้าไปทุกที เพราะงบทำทีมที่ทุกสโมสรต้องจ่ายในการพัฒนาทีมแต่ละเดือนเพื่อให้ผลงานตามเป้า โดยเฉพาะเรื่องเงินเดือนค่าจ้างนักเตะมันมีรายจ่ายมากเกินกว่ารายรับที่ได้มาแต่ละฤดูกาลเสียอีก

รวมแล้วเงินอุดหนุนที่สมาคมเจียดมาให้กับสโมสรบวกกับสปอนเซอร์ที่เปรียบเหมือนเค้กก้อนเดียวที่ต้องแบ่งกันให้ครบหลายทีมทำให้เหลือน้อยนิดแทบไม่พอยาไส้

หนำซ้ำเงินอุดหนุนที่เหลือเพียง 14 ล้านบาท ยังแบ่งแยกย่อยเป็น 4 งวด งวดละ 3.5 ล้านบาท แค่นี้ทุกสโมสรก็พะงาบๆต้องเร่งใส่สายออกซิเจนเพื่อให้รอดตาย

เพราะการทำทีมในแต่ละปีไม่ได้ใช้แค่หลักสิบแต่เป็นหลักร้อยล้านนะครับ (ไม่ใช่ร้อยบาท) สโมสรไหนที่สายป่านน้อยก็รอวันตายอย่างเดียว ใครที่พวกเยอะมีงบก้อนโตก็ตายช้าหน่อย

โอ้แม่เจ้า! ล่าสุดได้ยินมาอีกว่างวดแรกเพิ่งจะคลอดออกมาแค่ 1.5 ล้านบาทเท่านั้นเอง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับวงการฟุตบอลไทยไปแล้ว

เอ! ทำไมถึงได้ตกต่ำแทบจะทั้งระบบ กล้าพูดได้อย่างเต็มปากถือเป็นการบริหารงานที่ล้มเหลวของสมาคมลูกหนังไทยภายใต้การบริหารงานของ “บิ๊กอ๊อด”

วันนี้รายรับของสมาคมถ้าจำไม่ผิดมาจากหลากหลายทั้งสปอนเซอร์ ค่าถ่ายทอดสดรวมไปถึงจากการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่ทำไมเงินอุดหนุนถึงออกช้า

หรือการที่เงินอุดหนุนช้าหรือลดลงมีความนัยแอบแฝงไปหรือเปล่า

พอลองย้อนความคิดกลับไปสมัยที่ “บังยี” เป็นนายกสมาคมฯ ตอนนั้นไม่ได้มีการของบสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่เงินอุดหนุนที่สโมสรได้รับมากถึง 25 ล้านบาท

ไถ่ถามจากหลายสโมสรต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “กราฟ” ของสมาคมลูกหนังไทยกำลังดิ่งเหว เพราะระบบการบริหารต่างๆล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ผลงานทีมชาติตกต่ำไล่ตามหลังเวียดนามทั้งชาย-หญิง บอลหญิงก็ชวดไปบอลโลก เงินอุดหนุนลดลงและช้า แถมกรรมการผู้ตัดสินก็ห่วยแตก ทุกอย่างดูแล้วมันฉุดให้วงการลูกหนังไทยตกต่ำกว่าที่คิด

แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากเสียงส่วนใหญ่ที่เป็น “กบเลือกนาย” สุดท้ายก็เอานกกระสามากินตัวเอง จนทำให้สโมสรกำลังจะตายหายหมดแล้ว

เป็นไงครับจำกันได้หรือเปล่ากับวลีของ “บิ๊กอ๊อด” ที่กล่าวไว้ว่า “แฟร์-โปร่งใส-ใครไม่อายผมอาย” ลองนั่งนับนิ้วดูแล้วทำไม่ได้สักข้อ

ถือเป็นเวรกรรมของวงการลูกหนังไทยจริงๆ ที่มีนายใหญ่ที่ไม่เป็นมืออาชีพนั่งบริหารงานอยู่

จากนี้คงทำได้แต่เพียงภาวนาอย่างเดียวครับว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนนายกเสียที.

โจโจ้