“บีจีพียู” คว้าถ้วยแรกของฤดูกาล ไทยแลนด์ แชมเปียนส์ คัพ ไปครองได้สำเร็จ

A fresh start is not a new place, It’s a new mindset. การเริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่ ที่ทำงานใหม่ แต่เป็นความคิดใหม่

“บีจีพียู” คว้าถ้วยแรกของฤดูกาล ไทยแลนด์ แชมเปียนส์ คัพ ไปครองสำเร็จเมื่อเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างสนุกสุดมันส์ 3 ประตู ต่อ 2 ทีมแพ้รอไป แก้มือในไทยลีก

ใครที่อยากรู้ว่าหัวอกของคน ที่เป็นโค้ชนั้น มันเครียดแค่ไหน ให้ลองไปถาม ดุสิต เฉลิมแสน ดูได้ หลายวันก่อน “โค้ชโอ่ง” เพิ่งให้สัมภาษณ์เปิดใจว่าอีก 3 ปี จะเกษียณตัวเองแล้ว ขอไปทำอะไรก็ได้แต่ไม่ใช่หน้าที่นี้

ข่าวการเพิ่ม โควตา ทีมไป บอลโลก ทำให้ประดาผู้คนในวงการลูกหนังไทยออกมาตื่นเต้นกระดี๊กระด๊ากันยกใหญ่ แต่เชื่อขนมกินได้ว่าอีกไม่นานก็จะลืมๆกันไปเอง เพราะคนที่ รู้จริง ก็ไม่ มีอำนาจ ส่วนคนที่มีอำนาจก็ ทำไม่เป็น

ฟังข่าวว่า ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน จะขันอาสามารับหน้าที่ ประธานพัฒนาเทคนิค พาไทยไปบอลโลกนั้น “วีเออาร์” ฟันธงตรงๆเลยว่า เหมาะสม แต่ไม่เห็นด้วย เพราะโดยชื่อชั้นและดีกรีความสำเร็จระดับ “เดอะตุ๊ก” ควรขึ้นแท่น ประมุข บริหารฟุตบอลไทยได้แล้ว

ส่วนประธานเทคนิคถ้า เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง พร้อมสลัดธุรกิจส่วนตัวเสียสละเพื่อชาติก็ควรให้โอกาส “ซิโก้” รับงานนี้ ถึงตอนนั้น “เฮดโค้ช” จะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะมาจาก เกาหลีใต้ หรือ เมดอินไทยแลนด์ อย่าง สะสม พบประเสริฐ เพราะมี “เดอะตุ๊ก” และ “ซิโก้” ยืนเป็นแบ็กให้แข็งปึ้ก

อยากเห็นการ “แท็กทีม ไทยแลนด์” ที่สง่างาม ถ้าจะมีคนอย่าง ก้องภพ สรงกระสินธ์, จเด็จ มีลาภ, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, ธชตวัน ศรีปาน, ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย, วรวุธ ศรีมะฆะ, โชคทวี พรหมรัตน์, ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล, ดุสิต เฉลิมแสน, อิสระ ศรีทะโร, สระราวุฒิ ตรีพันธ์, พิภพ อ่อนโม้, จักรพันธ์ ปั่นปี ฯลฯ เข้ามาช่วยกันคนละไม้คนละมือ พัฒนา เด็กไทย ทั่วราชอาณาจักร โดยมีสมาคมฟุตบอลฯ เป็นเจ้าภาพ

ถึงเวลาแล้วที่ สมาคมฟุตบอลฯ ควรเอาเงินงบประมาณอุดหนุนให้แต่ละสโมสรไป สร้างอะคาเดมีอย่างจริงๆจังๆ โดยใช้ โค้ชไทย เหล่านี้ ดีกว่าไปจ่ายให้ฝรั่งอั้งม้อเดือนละหลายล้าน ปีละเกือบร้อยล้าน 5-6 ปี มานี้ผลาญไปกี่ร้อยล้าน แล้ว แต่มาตรฐานเด็กไทยก็ยังไปไม่ถึงไหน

วีเออาร์