บี บางปะกง
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ของพรรคฝ่ายค้าน เริ่มขึ้นแล้วล่ะครับ!! เสียดายนะครับที่แวดวงกีฬาของเราไม่ได้มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ไม่งั้นคงสนุกพิลึกกับการซักฟอกประเด็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นของสมาคมกีฬาทั้งหลายแหล่
โดยเฉพาะสมาคมกีฬามหาชนอย่าง “ฟุตบอล” ที่ดูเหมือนจะตกเป็นเป้าโฟกัสของสังคมมากกว่าใคร?
เหตุจาก ความล้มเหลวของ “ทีมชาติไทย” แทบทุกชุด ที่เมื่อก่อนเราเคยครองความยิ่งใหญ่ เป็น “เต้ย” ในอาเซียน...ชนิดไม่มีใครกล้ามาแหยม
แต่มาดูสภาพความเป็นไป ณ ปัจจุบัน เรากำลังเผชิญอยู่กับอะไร พระเดชพระคุณท่านก็คงเห็นๆกันอยู่
เอากันจริงๆ อย่าบอกว่าบอลไทยไม่พัฒนา แต่นี่เรากำลัง “ถอยหลังลงคลอง” ไปทุกเมื่อเชื่อวันแล้วต่างหาก!!
จะบอกว่าผลงานทีมชาติ ไม่เห็นเกี่ยวกับการ บริหารงานของสมาคมฯที่ตรงไหน ก็คงไม่ถูกนัก
เพราะหัวใจหลักของการเข้ามาดูแลสมาคมกีฬาฯ มันวัดกันที่ความสำเร็จหรือล้มเหลวของทีมชาติไทยนี่แหละสำคัญที่สุด!
ไม่เชื่อก็ลองไปถามสมาคมวอลเลย์บอลฯ ดูก็ได้...ว่าจริงหรือเปล่า?
เพราะเค้าไม่เห็นต้องมีถาวรวัตถุอะไรที่มันวิเศษ วิโส แต่ผลงานการพัฒนานักกีฬาทีมชาติแบบรุ่นต่อรุ่น มันโดดเด่นเป็นสง่าทุกครั้งที่ออกไปสู่เวทีนานาชาติ
เอาเป็นว่าความล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับทีมลูกหนังชาติไทย...มองยังไงก็ ก็ต้องเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ผู้นำสูงสุดขององค์กรต้องออกมาแอ็กชันบ้าง ไม่มากก็น้อย
ไม่ใช่นิ่งสนิท ทำเป็น “ทองไม่รู้ร้อน” หรือใช้นโยบาย “ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว” ซึ่งมันจะยิ่ง Go So Big ไปกันใหญ่
เช่นเดียวกับการดูแลสารทุกข์สุกดิบของสโมสรสมาชิกก็เช่นกัน ต้องถามตัวเองแล้วล่ะว่าตอนนี้ ท่านบริหารงานให้ทุกทีมมีความ “เท่าเทียมกัน” จริงหรือเปล่า?
หรือเลือกปฏิบัติเป็นบางสโมสรที่ต้องดูแลกันแบบ “ซูเปอร์ VIP” ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม อะไรประมาณนั้น
ซึ่งถ้าเป็นรูปนี้ก็ต้องบอกเลยว่าท่านขาด “ธรรมาภิบาล” ในการปกครอง...โดยสิ้นเชิง
อย่างกรณีของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่โดนริบสิทธิ์โควตาเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลนี้อย่างไม่เป็นธรรม
เรื่องนี้ เป็นแบบไหน อย่างไร? สังคมฟุตบอลย่อมรู้อยู่เต็มอก
ที่ผ่านมาทั้ง 2 สโมสรพยายามดิ้นรนทวงสิทธิ์ของตัวเองที่พึงได้พึงมีมาโดยตลอด
แต่ดูเหมือนสมาคมฟุตบอล และ บ.ไทยลีก จะไม่มีการตอบสนองใดๆออกมา
ขนาดไปยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ 10 กว่าวันแล้ว ถึงตอนนี้ก็ยังนิ่งสนิท
ดังนั้นแนวทางต่อไปของทีมที่เสียหายอย่าง แข้งเทพ ก็คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากพึ่งความยุติธรรมของ “ศาลกีฬาโลก” ให้มันรู้แล้วรู้รอด
ในเมื่อองค์กรกีฬาภายในประเทศฝากความหวังไว้ไม่ได้ ปฏิบัติการเรียกร้องความเป็นธรรมในระดับอินเตอร์คงจะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้า
แม้จะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกเพิกถอนสิทธิ์สโมสรสมาชิกจากทางสมาคมลูกหนังก็ตาม
แต่เคสนี้จะเป็นบรรทัดฐาน และเป็นคดีตัวอย่างของการต่อสู้กับความอยุติธรรม ของวงการฟุตบอลบ้านเรา...
บี บางปะกง