ไทยรัฐฉบับพิมพ์
เรื่องโควตา “เอซีแอล” เอเอฟซี แชมเปียนลีก ถือเป็นอีกหนึ่งมหากาพย์ ของวงการลูกหนังไทยในตอนนี้ ที่ยัง หาบทสรุปที่แท้จริงไม่ได้
ทั้งที่ความจริงมันไม่น่าจะใหญ่โต หรือเป็นข้อที่ต้องมาถกเถียงให้มากมาย หาก “บริษัทไทยลีก” ทำตาม กฎกติกาเดิมที่กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน
ประเด็นเดิมโควตา 2+2 ที่บริษัทไทยลีกจะให้เปลี่ยนมาเป็น 1+1 ไม่ใช่เรื่องเล่นๆหรือจะปล่อยผ่านแบบไม่ใส่ใจไม่ได้เลย ตรงข้าม เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องควรระวัง ถือเป็นเรื่องที่เสียหายอย่างใหญ่หลวงกับสโมสรที่ต้องเสียสิทธิ์ไป
ในแต่ฤดูกาลทุกสโมสรล้วนต้องฟันฝ่าอุปสรรคแต่ละนัดเพียงเพื่อหวังก้าวไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุดการคว้าแชมป์ลีก แต่เมื่อไม่ถึงฝัน สิ่งที่รองลงมาคือ การได้สิทธิ์ไปเตะในรายการใหญ่ระดับเอเชียเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสโมสร
ไม่แปลกใจหรอกที่ “ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และเมืองทอง ยูไนเต็ด” 2 สโมสรที่เสียสิทธิ์ส่ง หนังสือยืนจดหมายขอคัดค้านการตัดสินใจของไทยลีกเนื่องจากส่งผลกระทบต่อสโมสร
เพราะสิ่งแต่ละสโมสรจะได้รับกลับมาจากโควตา “เอซีแอล” นอกจากสปอนเซอร์ที่จะได้จำนวน เพิ่มมากขึ้นจากเดิมแล้ว หากเป็นลีกเมืองนอกก็จะได้เงินจากการถ่ายทอดสดด้วย สำหรับไทยคงคิดเรื่อง ดังกล่าวไม่ได้ เพราะลำพังมูลค่าที่ชุดก่อนๆเคยทำไว้ มันหมดไปแล้ว
แต่ที่อดงง! ไม่ได้ คือทำไม “บริษัทไทยลีก” ถึงไม่คิดหาทางออกให้กับ 2 สโมสรที่ต้องเสียสิทธิ์
ทางออกที่บริษัทไทยลีกคิดจะให้ 16 สโมสรร่วมโหวตลงมติ มันใช่หรือเปล่า!
ไม่รู้ว่าใช้มันสมองรอยหยักส่วนไหนคิด ที่สำคัญ จำนวน 16 สโมสรที่จะมาร่วมโหวตมันใช่หรือ! หลายทีม เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาสู่ลีกสูงสุด
จริงอยู่การอ้างกฎของ “เอเอฟซี” เป็นสิ่งที่ ถูกต้อง แต่เชื่อว่าถ้าพูดกับเอเอฟซีถึงที่มาที่ไปด้วยเหตุและผลคิดว่าคงไม่ใช่ปัญหาหากต้องใช้กฎกติกาเดิม 2+2 ไปก่อน จากนั้นพอเริ่มฤดูกาลใหม่ค่อยมาว่ากันเรื่องกติกาใหม่มันถึงจะถูก
การที่บริษัทไทยลีกส่งจดหมายให้กับ 16 สโมสร โหวตพร้อมแจ้งว่าต้องส่งกลับภายใน 7 วัน นับแต่ วันที่สโมสรได้รับหนังสือ
หากสโมสรไม่ได้ส่งกลับในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่าสโมสรสมาชิกรายนั้น เห็นด้วยกับแนวทางข้อที่ 1 นั่นคือโควตาแบบ 1+1
เอ! นี่เป็นสิ่งที่ยุติธรรมกับทั้ง 2 สโมสรแล้วหรือ อย่าลืมว่าแต่ละฤดูกาลที่ทุกสโมสรลงทุนนั้น จำนวน มหาศาลมาก ไม่ใช่แค่หลักแสนบาทแต่เป็นร้อยล้านบาท
หรืองานนี้จะมีอะไรแอบแฝงให้ต้องคิดอีกแล้ว
ทุกวันนี้ฟุตบอลลีกของไทยยังแย่ไม่พออีกหรือ.
โจโจ้ซัง