ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 กำลังจะเปิดฉากช่วงชิงเหรียญทองในเดือนหน้า พ.ค. ที่เวียดนาม หลายชนิดกีฬาประเภททีม เริ่มทยอยแบ่งสายการแข่งขัน ฟุตบอล เพิ่งจะเสร็จสิ้นไปหมาดๆ
โดย “ทีมช้างศึก” อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับมาเลเซีย, กัมพูชา, สิงคโปร์, สปป.ลาว ขณะที่กลุ่มเอ ดูแล้วกระดูกขัดมันของแท้ประกอบด้วย เวียดนาม, อินโดนีเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, ติมอร์เลสเต
ใครที่เห็นเส้นทางแล้วต่างลูบปากบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องแชมป์หรืออย่างน้อยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ
งานนี้ไม่มีรถขนหมูคว่ำเพราะดูแล้วรอบชิงชนะเลิศอยู่แค่เอื้อมถ้าเทียบกับอีกสาย เนื่องจากคู่รักคู่แค้นทั้งหลายไปอยู่กองรวมกันเรียกว่ากรุ๊ปออฟเดธก็ว่าได้
ซึ่งช้างศึกจะประเดิมสนามวันที่ 7 พ.ค. พบ มาเลเซีย จากนั้นวันที่ 9 พ.ค. พบสิงคโปร์ วันที่ 14 พ.ค. พบกัมพูชา วันที่ 16 พ.ค. พบ สปป.ลาว ส่วนรอบรองชนะเลิศวันที่ 19 พ.ค. และรอบชิงเหรียญทองกับชิงเหรียญทองแดงวันที่ 22 พ.ค.
ขณะที่ทีมแข้งสาวก็สบายไม่แพ้กันสายของไทยไม่แกร่งเท่าไหร่ แต่อีกกลุ่มมหาโหดไม่แพ้ทีมชาย โดย “ชบาแก้ว” อยู่สายบี ร่วมกับเมียนมา, สปป.ลาว, สิงคโปร์ ส่วนสายเอ เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, อินโดนีเซีย
เส้นทาง “ชบาแก้ว” คล้ายคลึงกับช้างศึกเพราะอีกสายถือว่าแข็งโป๊ก ถ้าพูดกันจริงๆไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะดีกรีดีกว่าทุกขุมกำลัง แถมไปฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 สมัย
เมื่อเทียบกับทุกทีมถือว่าเหนือกว่ามากเช่นเดียวกันซีเกมส์หนนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องแชมป์อย่างเดียวเท่านั้น หรือถ้าผิดพลาดจริงๆก็ควรต้องถึงรอบชิงชนะเลิศ หากพลาดจากนี้ถือว่าล้มเหลว
ชบาแก้วจะประเดิมสนามวันที่ 10 พ.ค. พบ สิงคโปร์ ต่อด้วยวันที่ 13 พ.ค. พบเมียนมา วันที่ 15 พ.ค. พบ สปป.ลาว ส่วนรอบรองชนะเลิศแข่งวันที่ 18 พ.ค. และรอบชิงเหรียญทองกับชิงเหรียญทองแดง วันที่ 21 พ.ค.
มาถึง “ช้างศึกโต็ะเล็ก” ฟุตซอลทีมชาติไทย แข่งแบบพบกันหมดเพราะมีแค่ 5 ชาติ จากนั้นหาชาติที่ทำคะแนนได้มากที่สุดคว้าเหรียญทองไปครอง
ถ้าวิเคราะห์เจาะลึกกันจริงๆ ไม่ใช่ปัญหาโต๊ะเล็กไทยไปฟุตซอลโลกมาแล้วถึง 6 ครั้ง ไล่ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายถึง 3 ครั้งติด โดย 2 หนล่าสุดเข้าแบบฝีมือล้วนๆ ไม่ต้องอาศัยจมูกคนอื่นหายใจ
ดังนั้นซีเกมส์หนนี้เทียบฟอร์มกันแบบปอนด์ต่อปอนด์แล้วไทยในฐานะแชมป์เก่าไม่น่ามีปัญหาน่าจะรักษาบัลลังก์แชมป์ไว้ได้อีกครั้ง
โต๊ะเล็กไทยจะเปิดสนามวันที่ 11 พ.ค. กับ มาเลเซีย จากนั้นวันที่ 16 พ.ค. พบเมียนมา วันที่ 18 พ.ค. พบอินโดนีเซีย และส่งท้ายวันที่ 20 พ.ค. พบเวียดนาม
เห็นแบบนี้แล้วเชื่อว่าโอกาส 3 เหรียญทองไม่น่าพลาด จริงอยู่ทุกทีมล้วนแกร่งกล้าขึ้น ซึ่งก็ไม่แปลก ในเมื่อที่ผ่านมาทีมชาติไทยทั้ง 3 ชุดยังไงก็เหนือกว่าด้วยดีกรีและประสบการณ์
ในเมื่อทุกชาติคู่แข่งที่ด้อยกว่าเรามีการพัฒนาขึ้นมาก ขณะที่เราซึ่งถือไพ่เหนือกว่ามาตลอดก็ย่อมพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นเช่นกัน
หากซีเกมส์เรายังพลาดล้มเหลวอีกคงไม่ต้องฝันไกลไปมากกว่านี้แล้วหล่ะครับ.
โจโจ้ซัง