ใต้ร่มเงา...ไทยแลนด์

ถึงจะเป็นทีมชาติคนละชุดกัน แต่ในเมื่อมาแข่งวันเดียวกัน ก็เลยอดเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะขณะที่ขุนพล “ดาวทอง” ทีมชาติเวียดนามชุดใหญ่ โชว์ผลงานสุดเฉียบด้วยการบุกไปเสมอพลพรรคซามูไรบลูส์ ทีมชาติญี่ปุ่นถึงแดนซามูไร 1–1 ในเกมส่งท้ายศึกคัดบอลโลก โซนเอเชีย

ทีมชาติไทยชุดยู 23 ของพวกเรากลับปราชัย อิรัก 1–2 พ่ายแพ้รวดทั้ง 3 เกมของทัวร์นาเมนต์ “ดูไบคัพ 2022” รั้งตำแหน่ง “กิมบ๊วย” กลับมาด้วยฟอร์มการเล่นที่ดู “ดร็อป” ลงไปเรื่อยๆ

ถือเป็นการบ้านที่ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ จะต้องกลับมาเร่งสะสางโดยด่วน ก่อนที่จะถึงศึกใหญ่ที่รออยู่ในเดือน พ.ค.นี้ ในฟุตบอลกีฬาซีเกมส์ที่เวียดนาม รวมถึงศึกลูกหนังชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่อุซเบกิสถาน ในเดือนมิ.ย.

โจทย์สำคัญที่ต้องตีให้แตกเช่นเดียวกับแท็กติก ยุทธวิธีการเล่นที่ต้องมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ก็คือเรื่องของตัวผู้เล่นที่ทับซ้อนกันกับทีมชาติชุดใหญ่

ซึ่งตรงนี้ “โค้ชโย่ง” คงต้องรีบกลับมาคุยกับกุนซือ มาโน โพลกิง ให้สะเด็ดน้ำว่าจะเลือกใช้ใคร ตำแหน่งไหนกันบ้าง จึงจะได้ประโยชน์สูงสุดกับทีม!!

จบจากโปรแกรมลับแข้งตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ของทีมชาติชุดใหญ่ และชุดเล็กไปแล้ว ต่อไปก็ถึงคิวของทีมช้างศึกโต๊ะเล็ก แข้งฟุตซอลทีมชาติไทย กันอีกครั้ง

กับภารกิจการไล่ล่าแชมป์ฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน AFF Futsal Championship 2022 ที่ไทยเรารับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ระหว่างวันที่ 2–10 เม.ย.65

รายการนี้จะคัดเอา 3 ชาติ ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย เอเอฟซี ฟุตซอล เอเชียนคัพ 2022รอบสุดท้าย ในช่วงปลายเดือน ก.ย.ปีนี้ ที่ประเทศคูเวตต่อไป

ซึ่งทีมโต๊ะเล็กช้างศึก ภายใต้การคุมทัพของ โค้ชคาร์ลอส เซซาร์ กุนซือใหญ่ชาวสเปนเพิ่งคว้าถ้วยแชมป์ “NSDF Futsal Invitation Championship Thailand 2022” มาได้เมื่อสัปดาห์ก่อน

ทำให้นักเตะมีความมั่นอกมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในการทำศึกอาเซียน ที่เราผงาดซิวแชมป์มาแล้วถึง 15 สมัย

เรียกว่าทีมฟุตซอลชาติไทยส่งแข่งเมื่อไรไม่ว่าจะเป็นทีมใหญ่หรือทีมรอง ไม่เคยพลาดแชมป์อาเซียนเลยสักครั้ง ตั้งแต่ปี 2001/2003/2005/2006/2007/2008/2009/2012/2013/2014/2015/2016/2017/2018/2019

มีเพียงปี 2010 เพียงครั้งเดียวที่ อินโดนีเซียคว้าแชมป์ไปครอง เพราะเราไม่ได้ส่งทีมเข้าร่วมฟาดแข้ง

โดยขุมกำลังของทีมโต๊ะเล็กไทยชุดนี้ถือเป็นชุดใหญ่ไฟกะพริบ ซึ่งเป็นการผสมผสานกันของแข้งตัวเก๋ากร่ำประสบการณ์กับผู้เล่นดาวรุ่งสายเลือดใหม่ ที่โค้ชซีซาร์ดึงมาฝึกซ้อมเตรียมทีมต่อเนื่องไปถึงศึกซีเกมส์

ที่สำคัญยังได้ “เจ้าเหม็ด” มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ซึ่งเพิ่งกลับจากการไปทดสอบฝีเท้าในยุโรปสดๆร้อนๆมาเติมความคมในแนวรุกอีกคนด้วย ยิ่งทำให้ศึกอาเซียนหนนี้น่าดูเข้าไปใหญ่

สำหรับโปรแกรม AFF Futsal Championship 2022 รอบแบ่งกลุ่มของทีมฟุตซอลไทย มีดังนี้

วันที่ 2 เม.ย. ไทย พบ บรูไน, วันที่ 3เม.ย. ไทย พบ กัมพูชา, วันที่ 5 เม.ย. ไทย พบ อินโดนีเซีย, วันที่ 6 เม.ย. ไทย พบ มาเลเซีย

ซึ่งทุกนัดจะเตะ เวลา 17.00 น. โดยช่อง 9 MCOT HD และ T SPORTS 7 จะถ่ายทอดสดให้ลุ้นเชียร์กันทุกเกม

ฟุตบอลสนามใหญ่ยุคนี้ เราอาจเป็นรองเวียดนามในแง่ “อันดับโลก” ก็จริงอยู่

แต่กับสนามเล็กในเกมฟุตซอลแล้ว รับรอง ยังไงเหงียน

ก็อยู่ใต้ร่มเงาไทยแลนด์...วันยังค่ำ!!!

บี บางปะกง