บี บางปะกง
ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วครับ กับเกมเพลย์ออฟ ในศึก “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2022” โซนตะวันออก การท่าเรือ เอฟซี กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบเส้นทางถ้วยเอเชียแค่เพียงรอบนี้เท่านั้น
สำหรับสิงห์เจ้าท่าคงไม่พลิกความคาดหมายสักเท่าไหร่ เพราะรู้สภาพกันอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง ว่าพร้อมมากน้อยขนาดไหน ดังนั้นผลที่ออกมาด้วยการปราชัยเจ้าถิ่น อุลซาน ฮุนได อดีตแชมป์เก่า ACL 2020 ด้วยสกอร์ 0-3 ก็คงไม่เกินความคาดหมายแต่อย่างใด
ที่น่าเสียดายจริงๆ ก็เห็นจะเป็นขุนพลปราสาทสายฟ้า ที่บุกไปยิงนำแดกู เอฟซี ในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 119 จ่อจะเข้ารอบอยู่รอมร่อ แต่แค่นาทีเดียวก็มาโดนลูกทีมของอเล็กซานเดร กามา ตีเสมอ 1–1 อย่างน่าเจ็บใจ
ก่อนจะดวงจู๋ในการดวลจุดโทษ พ่ายแพ้เจ้าบ้านไป 2–3 จนกระเด็นตกรอบเพลย์ออฟไปในท้ายที่สุด!!
งานนี้ทำเอาเจ้าของทีมผู้มากบารมี ที่ไปนั่งลุ้นปัสสาวะเหนียวที่ขอบสนามแดนโสมถึงกับ...เซ็งเป็ด! เพราะในรอบแบ่งกลุ่มของสายเอฟ อุตส่าห์ดิ้นรนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพรอไว้แล้ว
ตกลงเลย “แห้ว” รับประทาน ไม่มีเจ้าภาพตัวจริงลงฟาดแข้งที่ช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ ในเดือนหน้าอย่างแน่นอน
ส่วนคนที่สะใจกว่าใครเพื่อน ก็เห็นจะเป็นกุนซือเก่า อย่าง โค้ชกามา ที่จะได้นำลูกทีมแดกู มาเยือนถิ่นเดิมที่เขาเคยกวาดแชมป์มาอย่างมากมาย
แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ยังไม่ดีพอที่จะได้คุมแข้งเซราะกราวต่อไป ทั้งที่ทำผลงานเลิศพาทีมเข้าป้ายเป็นแชมป์ไทยลีก เลกแรก ได้แท้ๆ
สุดท้ายก็ต้องระเห็จมารับงานในเคลีก เกาหลีใต้ ซึ่งโชคชะตาฟ้าลิขิตให้เขาต้องโคจรมาเจอลูกทีมเก่าในการเพลย์ออฟถ้วยเอเชีย
และก็เป็นโค้ชแซมบ้าที่ชื่อ “อเล็กซานเดร กามา” ผู้นี้นี่แหละ ที่ทำให้ยอดทีมอีสานใต้ต้องอกหักรักคุด หยุด STOP ความฝันที่จะเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มในบ้านตัวเอง...ไว้พอส่ำนี้
ทำให้รอบกรุ๊ปสเตจ ที่จะเปิดฉากดวลแข้งกัน ระหว่างวันที่ 15 เม.ย.-1 พ.ค.65 เหลือตัวแทนของไทยลีกอยู่ 2 สโมสร ที่จะได้ลุ้นต่อกับบรรดายอดทีมหัวกะทิของชาติต่างๆ ในอีสต์ เอเชีย คือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับ ลีโอ เชียงราย
โดย เดอะ แรบบิต อยู่ในกลุ่มจี ร่วมกับชุนนัม ดรากอนส์ (เกาหลีใต้), ยูไนเต็ด ซิตี้ (ฟิลิปปินส์) และเมลเบิร์น ซิตี้ (ออสเตรเลีย) ซึ่งจะใช้บีจี สเตเดียม ของตัวเองเป็นสังเวียนแข้งเฉกเช่นปีที่แล้ว
ส่วนโปรแกรมของบีจี มีดังนี้ วันที่ 15 เม.ย. พบเมลเบิร์น ซิตี้, วันที่ 18 เม.ย. พบชุนนัม ดรากอนส์, วันที่ 21 เม.ย. พบยูไนเต็ด ซิตี้, วันที่ 24 เม.ย. พบยูไนเต็ด ซิตี้, วันที่ 27 เม.ย. พบ เมลเบิร์น ซิตี้, วันที่ 30 เม.ย.พบชุนนัม ดรากอนส์
ขณะที่กว่างโซ้งมหาภัย อยู่กลุ่มเจ กับ เซี่ยงไฮ้ พอร์ต (จีน), คิตฉี เอสซี (ฮ่องกง) และ วิสเซล โกเบ (ญี่ปุ่น)
ซึ่งโปรแกรมของเชียงรายประกอบด้วย วันที่ 16 เม.ย. พบคิตฉี เอสซี, วันที่ 19 เม.ย. พบ เซี่ยงไฮ้ พอร์ต, วันที่ 22 เม.ย. พบวิสเซล โกเบ, วันที่ 25 เม.ย. พบวิสเซล โกเบ, วันที่ 28 เม.ย. พบคิตฉี เอสซี, วันที่ 1 พ.ค. พบ เซี่ยงไฮ้ พอร์ต
ก็ต้องรอลุ้นกันล่ะครับว่าสนาม “ยูไนเต็ด สเตเดียม” ของเชียงราย จะผ่านการประเมินมาตรฐานจาก “เอเอฟซี” หรือเปล่า?
แหม่...เชียงรายเป็นเจ้าภาพ (ครั้งแรก) ทั้งที เกิดไม่ได้เล่นที่เชียงราย แล้วต้องโยกไปเตะจังหวัดอื่น
สาวกกว่าง...คงเสียอารมณ์ชะมัด!!!
บี บางปะกง