หน้าแรกแกลเลอรี่

สารานุกรมอดีตทีมชาติ

บี บางปะกง

17 ก.พ. 2565 05:05 น.

วันก่อน บก.จำนงค์ สงค์เกื้อ แห่งฟุตบอลสยาม ฝากข่าวประชาสัมพันธ์มาถึงผม ให้ช่วยโปรโมตกิจกรรมของ “ชมรมอดีตนักฟุตบอลทีมชาติ” ที่เตรียมจัดทำ “สารานุกรมบันทึกอดีตนักเตะทีมชาติ” ลงหนังสือ เพื่อมอบ “ฟรี” ให้กับคนรุ่นหลังได้ศึกษาและรับรู้โดยถ้วนทั่วกัน

สำหรับโปรเจกต์นี้มี ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ในฐานะประธานชมรมอดีตนักฟุตบอลทีมชาติ เป็นตัวตั้งตัวตีเข้ามาปรึกษาหารือกับทางบอสใหญ่สยามสปอร์ต “ระวิ โหลทอง” ถึงโรงพิมพ์ซอยนวลจันทร์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยการก่อตั้ง “ชมรมอดีตนักฟุตบอลทีมชาติ” ได้เชิญอดีตทีมชาติหลายต่อหลายคน มาร่วมทำงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เชิดศักดิ์ ชัยบุตร, ทินกร แพทย์เจริญ, นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์,ดร.พิทักษ์ ศิลป์ประสิทธิ์, สราวุธ ประทีปากรชัย, ดร.ทวีพงษ์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา, จำเริญ คำนิล, เรืออากาศโท สัมพันธ์ สุขสนิท, อริศ กุลสวัสดิ์ภักดี, ณัฐ ธำรงเวช เป็นต้น

การบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ทางชมรมตั้งใจจะรวบรวมเรื่องราวและประวัติของเหล่าบรรดานักเตะตั้งแต่อดีตที่เริ่มต้น ตั้งแต่ยุคโอลิมปิก เมลเบิร์น 1956 มาจนถึงอดีตทีมชาติยุคหลังๆ รวมกว่า 500 คน มาบันทึกไว้เป็นเกียรติประวัติชีวิต

ซึ่งหลังจากที่จัดพิมพ์ลงหนังสือเรียบร้อยแล้ว จะแจกฟรีให้กับนักเตะและคนทั่วไปได้เก็บเอาไว้เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงนักฟุตบอลทีมชาติ ที่เคยสร้างความสุขสมหวังให้กับแฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศ

ส่วนการที่ ดร.วิชิตตั้งใจจะมาขอความร่วมมือจาก “พี่วิ” นั้น ผมเข้าใจว่าไม่ใช่เพราะแกเป็นเจ้าของโรงพิมพ์อย่างเดียว

แต่ด้วยความผูกพันทางใจที่มีให้กันมาเนิ่นนานกับอดีตนักเตะยุคนั้น ซึ่งถือเป็นยุครุ่งเรือง (สุดขีด) ของฟุตบอลไทย โดยเฉพาะทีมชาติชุดโอลิมปิก 1968 ที่เม็กซิโก หรือกว่าครึ่งศตวรรษผ่านมาแล้ว นั่นแหละคือประเด็นสำคัญ

โอลิมปิกที่แดนจังโก้ เมื่อปี พ.ศ.2511ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่แข้งแดนสยามสร้างประวัติศาสตร์ไปลุยศึกโอลิมปิก รอบสุดท้าย ได้สำเร็จ

ทีมชาติไทยชุดนั้น ประกอบด้วย สราวุธ ประทีปากรชัย, เชาว์ อ่อนเอี่ยม, ไพศาลบุพพศิริ, ยงยุทธ สังขโกวิท, ประโยค สุทธิสง่า, จีระวัฒน์ พิมพะวาทิน, ณรงค์ ทองเปลว, ไพบูลย์อัญญโพธิ์, สนอง ไชยยงค์, สุพจน์ พานิช, ชัชชัยพหลแพทย์, วิชัย แสงธรรมกิจกุล, นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์, ประเดิม ม่วงเกษม, อุดมศิลป์ สอนบุตรนาค, เกรียงศักดิ์ นุกูลสมปรารถนา, เกรียงศักดิ์ วิมลเศรษฐ์, บุญเลิศ นิลภิรมย์ และณรงค์ สังขสุวรรณ์

โดยมี ประสิทธิ์ นิลายน เป็นผู้จัดการทีม พ.อ.ประเทียบ เทศวิศาล เป็นผู้ควบคุมทีม และผู้ฝึกสอน คือ มร.กุนเธอร์ กลอมป์ ซึ่งผลงาน รอบแรกแพ้บัลแกเรีย 0-7 แพ้ กัวเตมาลา 1-4 แพ้ สาธารณรัฐเช็ก 0-8 และนั่นคือโอลิมปิกครั้งสุดท้ายที่แข้งไทยได้สัมผัส

นักข่าวกีฬาหนุ่มไทย 2 คนที่มีโอกาสลัดฟ้าข้ามโลกไปตามติดทีมชาติไทยชุดประวัติศาสตร์ถึงแผ่นดินเม็กซิกันคือ พินิจ พงศ์สวัสดิ์ จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่โบกมือลาโลกนี้ไปแล้ว

เหลืออีกคนจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่ยังคงยืนหยัดเป็นเสาหลักให้วงการสื่อกีฬาบ้านเราตราบถึงปัจจุบัน

จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “บิ๊กระวิ โหลทอง” หนึ่งเดียวคนนี้

แห่งอาณาจักรสยามสปอร์ต...อันเกรียงไกร ในโลกกีฬา!!!

บี บางปะกง