บี บางปะกง
ผลงานอันแจ่มจรัส จับต้องได้เป็นรูปธรรม กับ ถ้วยแชมป์เจ้าอาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020” ทำให้ชื่อของกุนซือฝรั่งหัวใจไทย อย่าง “มาโน โพลกิง” เข้าไปนั่งอยู่กลางหัวใจของแฟนบอลช้างศึกทั้งประเทศเป็นที่เรียบร้อย
เท่าที่ทราบข้อมูลมาในตอนแรก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ กะจะให้เจ้าตัวมาคุมทัพทีมชาติไทยระยะสั้นในอาเซียนคัพทัวร์นาเมนต์เดียว
เมื่อเสร็จภารกิจก็จะให้โยกมาทำหน้าที่กุนซือใหญ่ การท่าเรือ เอฟซี ในไทยลีก เลก 2 แต่เอาไปเอามา โค้ชมาโนดันทำผลงาน ได้อย่างเข้าเบ้าตากรรมการเกินคาด
ไม่ใช่แค่กู้ศักดิ์ศรีบอลไทยคืนมาในภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น
แต่ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเขาคือคนที่เหมาะสม (ที่สุด) กับการใช้งานนักบอลบ้านเราได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงลิ่ว
จะเรียกว่าเป็น “จุดแข็ง” ที่กุนซือมาโน มีเหนือกว่าโค้ชนอกโปรไฟล์เลิศหรู ดูดี ราคาแพง หูฉี่ คนอื่นใดที่เราเคยจ้างมาเลยด้วยซ้ำ!!
ดังนั้น ผมจึงไม่แปลกใจที่สมาคมลูกหนัง และมาดามเตรียมที่จะขยายสัญญาให้เจ้าตัวคุมทีมช้างศึกชุดใหญ่ออกไปอีก 1 ปี เพื่อสู้ศึกเอเชียนคัพ รอบคัดเลือก และป้องกันแชมป์ซูซูกิคัพอีกครั้ง ในช่วงปลายปีนี้ด้วย
บังเอิญวันก่อนผมได้ฟัง “บิ๊กแป๊ะ” ถิรชัย วุฒิธรรม ประธานมูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย จัดรายการวิทยุ Sport Inside ทางเอฟเอ็ม 99
เห็นด้วยกับแกเช่นกันว่าที่มาโน โพลกิง มีวันนี้ได้ นอกจาก “มาดามแป้ง” แล้ว ต้องยกเครดิตให้ บิ๊กขจร เจียรวนนท์ ประธานใหญ่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ตาถึงดึงอดีตมือขวาของกุนซือวินฟรีด เชเฟอร์ มาคุม “แข้งเทพ” อยู่ตั้งนานหลายปี
จนเจ้าตัวคุ้นเคยและรู้จักนักเตะไทยเป็นอย่างดี!
จำได้ว่าตอนแรกที่มาดามเลือกโค้ชมาโน ขึ้นมาคุมทีมชาติ คนนึงที่ชูมือสนับสนุนเต็มที่ ก็คือบิ๊กขจรนี่แหละ
โดยให้สัมภาษณ์กับผมว่า ถ้าจะเลือกโค้ชนอกสักคนมาคุมทีมบู๊ศึกอาเซียนล่ะก็ เขาเชื่อว่ามาโนนี่แหละตอบโจทย์ที่สุด
เพราะด้วยระยะเวลาการเตรียมทีมอันน้อยนิด บวกกับที่เราต้องไปทวงแชมป์คืนจากเวียดนาม กุนซือคนเดียวที่รู้จักบอลไทยอย่างถ่องแท้ และยังคุ้นเคยกับบอลแดนเหงียนสดๆร้อนๆ เพราะเพิ่งไปคุมทีมในวีลีกมาไม่นาน แถมยังว่างงานอยู่ซะด้วย
ก็มีโค้ชมาโน คนนี้ คนเดียว เลยจริงๆ
ตอนนั้นผมเขียนข่าวนี้ลงไปในไทยรัฐออนไลน์ ปรากฏว่าโดนแฟนบอลจำนวนหนึ่งรุมแซะว่าอวยมาโนเกินเหตุ
ถ้าดีจริงทำไม? บียูไม่เก็บไว้ใช้เองล่ะ เพราะคุมทีมมาตั้งนานสองนานไม่เห็นได้แชมป์อะไรเลย
ซึ่งคำสบประมาทเหล่านี้ คงไปทำอะไรไม่ได้หรอก นอกจากต้องให้ผลงาน (เท่านั้น) เป็นเครื่องพิสูจน์
และวันนี้ “มาโน โพลกิง” ก็ได้ทำให้สิ่งที่นายเก่า...เคยพูดถึงตัวเค้าเอาไว้...จากใจ
ให้เป็นเรื่องจริงขึ้นมาแล้วทั้งหมด...อย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน!!!
บี บางปะกง