หน้าแรกแกลเลอรี่

เอาใจช่วย...มูรินโย่ง

บี บางปะกง

26 ต.ค. 2564 05:07 น.

ผมนั่งเชียร์บอลทั้งไทยและเทศ 2 วันมานี้ ไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลยนะครับ!! เริ่มจาก “ศึกแดงเดือด” เมื่อคืนวันอาทิตย์ ที่กลายเป็น “ศึกโจ๊ก (ไม่) เดือด” ไปอย่างเหลือเชื่อ

โดยเฉพาะแฟนผีแดงที่พากันหาปี๊บมาคลุมกบาลด่วนเลย! หลังทีมรักตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้พญาหงส์อย่างย่อยยับไม่มีชิ้นดีถึง 0–5 คารังโอลด์แทรฟเฟิร์ด รีสอร์ต&สปา

ไอ้แพ้น่ะ...น่ะแพ้ได้เตรียมใจไว้แล้วล่ะ แต่ปราชัยด้วยสกอร์ตูดขาดวิ่นหมดทางสู้แบบนี้ คงต้องขอยืมคำของท่าน พส.มาใช้ว่า “สภาพพพ...” มันไม่เหลือซากจริงๆพ่ะย่ะค่ะ

แถมอาเฮีย “โอเล กุนนาร์ โซลชา” ยังประกาศรับผิดชอบความพ่ายแพ้ด้วยการ “ขอลุยต่อ” อีกต่างหาก! ช่างหน้าด้านหน้าทน ประดุจผู้นำเมืองสารขัณฑ์ที่เราคุ้นเคยแถวๆนี้ซะเหลือเกิน!

ผิดหวัง (อย่างแรง) จากการลุ้นบอลนอกไปแล้ว รุ่งขึ้นช่วงสายๆวันจันทร์หวังจะได้สมใจกับชัยชนะของทีมช้างศึกพลังหนุ่ม ยู 23 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ให้ชุ่มชื่นหัวใจกันซะหน่อย

โดยครึ่งแรกก็ทำท่าจะดูดีไม่มีปัญหา เพราะออกนำเจ้าภาพ มองโกเลียไปก่อนอย่างรวดเร็วจาก “จีโอ้” จักรกริช พาละพล แนวรุกจากทีม “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างจัดจ้านเกินคาดในการประเดิมสนามรับใช้ชาติเป็นเกมแรก

แต่พอได้ประตูแรกไปแล้ว แทนที่จะลุยบุกกดดันด้วยการต่อบอลบนพื้นเหมือนเดิม ยิ่งเล่นไป เล่นไป “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กลับให้ลูกทีมหันมาเน้นสไตล์คุมพื้นที่แล้วสาดบอลโด่งขึ้นหน้าไว้ก่อนคล้ายกับพอใจแล้วกับลูกเดียวที่นำอยู่

สุดท้ายก็เลยมาพลาดท่าช่วงท้ายเกม โดนส่องประตูตีเสมออย่างน่าเจ็บใจ จะมาเร่ง เครื่องอีกครั้งในช่วงใกล้หมดเวลาก็ไม่ทันกาลซะแล้ว จำต้องแบ่งแต้มกับเจ้าถิ่นไป 1–1 ชนิดน่าเสียดายเป็นที่สุด

และก็เป็นอีกครั้งที่ “โค้ชโย่ง” ทำทีมเอาชนะ มองโกเลียไม่ได้ โดยหนแรกเกิดขึ้นในการคุมทีมช้างศึกรุ่นนี้ เสมอกับลูกหลานเจงกีสข่าน 1-1 ในแมตช์ประเดิมสนามรอบคัดเลือกชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2017 ก่อนที่เราจะเข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ดีที่สุด

จริงๆแล้วผลเสมอในเกมนี้ก็ไม่ถือว่าเสียหายอะไรมากหรอกครับ เพราะรูปเกมโดยรวมแล้วเราดูดีกว่าเจ้าภาพชัดเจน โดยเฉพาะบรรดาแข้งอิมพอร์ตจากยุโรปทั้ง “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กัปตันทีม และ โจนาธาน เข็มดี ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างเข้าตากรรมการ ขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆก็ถือว่าทำหน้าที่ได้โอเคเลยทีเดียว

เสียดายที่แท็กติก และยุทธวิธีการเล่นของคนเป็นกุนซือเน้นเซฟแต้มมากเกินไป แทนที่จะเร่งเครื่องเพื่อเอาลูก 2 ลูก 3 ให้สกอร์ขาดลอยไปก่อนเลย ดันมาเน้นติ๊ดชึ่งจนถูกยิงเจ๊าจนได้

เลยต้องมาเหนื่อยกับอีก 2 เกมที่เหลือกับ สปป.ลาว ในวันที่ 28 ต.ค. และมาเลเซีย 31 ต.ค. ที่ว่ากันว่ามาตรฐานน่าจะดีกว่ามองโกเลียขึ้นไปอีก

ซึ่งด้วยข้อจำกัดเรื่องตัวผู้เล่น การเตรียมทีมที่มีน้อยนิด ความไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศหนาวเย็นและเบาบาง รวมทั้งสนามหญ้าเทียมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ แมตช์แรกผมคงจะไม่ขอวิจารณ์อะไรมากนอกจากเรื่องการแก้เกมในสนามอย่างเดียว

เอาใจช่วยกุนซือ วรวุธ ศรีมะฆะ แล้วกันนะครับ ที่ผ่านมาอาจไม่ค่อยถูกโฉลกนักกับทีมน้อยใหญ่ในเอเชีย

แต่ยังเชื่อใจว่า...ถ้าเจอทีมเพื่อนบ้านในอาเซียนด้วยกัน

ยังไง “มูรินโย่ง” ของผม (คง) น่าจะเอาอยู่!!!

บี บางปะกง